[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4733: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4735: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4736: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4737: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
JRISS! จริ๊ดจัดๆ • View topic - [แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 2

[แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 2

มันจะแปลกเกินไปไหมถ้าบอร์ดนี้จะไม่มีห้องที่พูดเรื่อง Star Wars ... เหอ เหอ

[แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 2

Postby D.M. » Mon 21 Oct 2002 10:47

-------------------------------------------------------------------------

ตามปกติแล้วพวกมานิคอนจะวิ่งสี่ขาแต่จะยืนขึ้นสองขาได้ในเวลาที่จะโจมตีศัตรู พวกมันมีตีนที่ใหญ่เหมือนตะลุมพุกเอาไว้ทุบคู่ต่อสู้ และถ้าหากมันจนมุมมันจะพ่นสารพิษเหม็น ๆ ที่มีฤทธิ์ทำให้ศัตรูตาบอดได้ชั่วคราวออกมาจากตาของมัน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคินและทรูจะต้องใช้ดาบเลเซอร์ อนาคินพบว่าดาบขึ้นมาอยู่ในมือก่อนที่เขาจะคิดเสร็จเสียอีก เขารู้ว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะเปิดเผยความจริงที่ว่ามีเจไดสองคนมาเที่ยวท่อม ๆ หาเศษอะไหล่อยู่ใต้ตัวเมือง แต่เขาก็ไม่อยากจะโดนรุมและโดนทำให้ตาบอดสักเท่าไรเหมือนกัน

ทรูกระโดดไปทางซ้าย และอนาคินก็เห็นยุทธวิธีที่ทรูจะใช้ทันที เขาจะต้องหลบทั้งตีนของพวกมันและพิษร้ายจากตาที่พวกมันสามารถพ่นออกมาได้ตรง ๆ เท่านั้น อนาคินโดดตามทรูไปขวางหน้ามานิคอนตัวแรก เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นนักสู้ในเชิงรุกมากกว่าทรู แต่เขาก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการทำให้พวกนั้นบาดเจ็บหรือตาย เขาแค่ต้องทำให้พวกมันกลัวพอที่จะถอยหนีไปเท่านั้น

“ถ้าเราทำลายข้าวของสัมภาระของมัน มันจะถอยหนี” เขาบอกทรูอย่างมั่นใจ “พวกมันไม่อยากจะเสียของที่พวกมันมีอยู่แล้วไปหรอก”

เขากระโดดไปข้างหน้าเข้าหาของที่มัดอยู่กับหลังของพวกมันในกระสอบใบใหญ่ ขณะที่ตีลังกาหลบตีนที่ลอยมาพลางเงื้อดาบฟันสายหนังที่ผูกของพวกนั้นออกจากหลังของพวกมัน กระบวนท่าทั้งหมดนั้นต้องใช้ทั้งกำลังละความแม่นยำที่พอเหมาะพอดี ถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียวเขาอาจจะตัดแขนใครไปสักคนก็ได้ นี่เป็นเหตุผลที่เขาชอบการใช้ดาบเลเซอร์ มันเป็นเครื่องมือที่สุดยอด เขาเคยเห็นเหล่าเจไดฝึกหัดทำพลาดมานักต่อนัก พวกนั้นไม่เข้าใจว่ามันละเอียดอ่อนแค่ไหน ไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะใช้มันได้ราวกับว่ามันเป็นแค่สายลมบางเบา ใช้มันให้เหมือนขนนก ไม่ใช่ท่อนไม้ ดังที่โซเอรา อันทานา ครูสอนการประดาบที่ดีที่สุดกล่าวเอาไว้

มัดของหลุดไปแล้วสามมัด ข้าวของเศษอะไหล่กระจัดกระจายไปทั่ว และพวกมานิคอนก็แผดเสียงคำรามด้วยความโกรธ พวกมันกระโดดข้ามเศษอะไหล่และโถมเข้ามาหาอนาคินและทรู

ฟิ้ววววววววววววววววววววววว!

อนาคินไม่เคยได้ยินเสียงพวกมานิคอนพ่นพิษมาก่อน แต่เขาก็ไม่ต้องรอให้ใครมาสอนหรอก

“โว้ว เป็นแผนที่ดีจริง ๆ อนาคิน” ทรูกล่าวชม

อนาคินกระโดดไปด้านขวาพร้อม ๆ กับที่มานิคอนตัวหนึ่งกำลังแยกเขี้ยวยิงฟันยืนสองเท้าย่างสามขุมเข้ามา ทรูถลันไปข้างหน้าพร้อมกับกวัดแกว่งดาบอย่างเร็วเพื่อที่จะดันให้มานิคอนตัวนั้นถอยไป

“เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว” ทรูพูดขึ้น

“เวลาอะไร?”

“เวลาที่จะใช้แผนใหม่ไง หนี!”

“เป็นความคิดที่ดีนี่” อนาคินออกวิ่งตามทรูไป

ทั้งคู่กระโดดขึ้นพร้อม ๆ กัน ใช้พลังส่งตัวพวกเขาให้ขึ้นไปถึงยอดกองเศษเหล็กได้ในการกระโดดครั้งเดียว ชิ้นส่วนเศษเหล็กร่วงกราวลงมาข้างล่างแต่ทั้งสองก็ยังยืนทรงตัวอยู่ได้

ทางด้านล่าง มานิคอนยังคงคำรามและหาทางที่จะตามขึ้นมาบนกองเหล็กด้วยความโกรธ แต่พวกมันตัวหนักและเงอะงะกว่าเจไดทั้งสอง จนทำให้กองเหล็กสะเทือนไหวอย่างแรงและเริ่มยุบตัวลงมา

อนาคินมองหน้าทรู

“เอาไงดีล่ะทีนี้?”

“โดดไม๊?” ทรูเสนอ

“ของมันแน่ แต่โดดไปที่ไหนล่ะ?” รอบ ๆ ตัวพวกเขามีแต่กองเศษเหล็ก ไม่มีกองไหนที่ดูมั่นคงเลย พวกเขาไม่มีทางจะรู้ได้ว่าจะกระโดดลงไปยืนได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

มานิคอนตัวมหึมาปีนขึ้นมาได้ครึ่งทางแล้วตอนที่มันทำชิ้นส่วนหม้อแปลงตกลงไปข้างล่าง กองเศษเหล็กทั้งกองที่อนาคินยืนอยู่เริ่มจะพังครืนลงมา

“ที่ไหนก็ได้!” ทรูตะโกนและกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ

อนาคินกระโดดตาม ขณะที่อยู่กลางอากาศเขามีเวลานิดเดียวที่จะตัดสินใจว่าจะโดดลงไปตรงไหน ถ้าเขาไม่ได้เข้ารับการฝึกเจไดมาก่อนคงมีโอกาสสูงทีเดียวที่เขาจะตกลงไปเจอเหล็กแหลมหรือโลหะคม ๆ แต่นี่เขาสามารถคำนวนและกำหนดจุดหมายได้แม้จะกำลังตกจากที่สูง ทุกอย่างเบื้องล่างดูกระจ่าง เขารู้สึกว่าเขาสามารถเห็นกรวดทุกเม็ด เศษเหล็กทุกชิ้น เศษดินทุกอณู พลังสามารถทำให้เขาเห็นอะไรได้ชัดเจนถึงขนาดนั้น

เขามีชีวิตอยู่เพื่อเวลาแบบนี้แหละ เขาสูดอากาศสดชื่นยามราตรีเข้าไปเต็มปอด อันตรายอยู่ใกล้แค่เอื้อม พลังรายล้อมอยู่รอบตัวเขา ถ้าเพียงแต่เขาสามารถลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างนี้ได้ตลอดไป ก็คงจะดี

เขาลงมายืนอย่างนิ่มนวลและแม่นยำขอบกองเหล็กกองหนึ่งก่อนที่จะกระโดดต่อลงไปจนถึงพื้นดิน ทรูก็กระโดดลงมายืนข้าง ๆ เขาอย่างปลอดภัยเช่นกัน

ฟิ้ววววววววววววววว!

อนาคินกระโดดดึงตัวทรูไปทางด้านข้าง พิษที่พ่นมาพลาดไปแค่นิดเดียว

ทั้งคู่หันไปมองข้างหลัง มานิคอนที่กำลังโกรธจัดสามตัวพยายามไถลตัวลงมาจากกองเหล็กมุ่งมาหาพวกเขา เศษอะไหล่หลุดร่วงและไหลตามพวกมันลงมาด้วย

“ได้เวลาเผ่นแล้วล่ะ” ทรูพูดกระหืดกระหอบ
ทั้งสองวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทิ้งกองเศษเหล็กที่พังลงมากลายเป็นฝุ่นคลุ้งเต็มไปหมดไว้เบื้องหลัง พวกมานิคอนกรีดร้องอย่างน่ากลัว แม้จะสำลักฝุ่นอนาคินกับทรูยังคงวิ่งต่อไป พวกเขาวิ่งไม่หยุดจนกระทั่งมาถึงทางเดินที่พอจะปลอดภัย

ในที่สุดพวกเขาก็ได้หยุดพักหายใจ เกือบไปแล้วไหมล่ะ

ทั้งคู่ออกเดินต่อโดยมุ่งไปตามทางลาดที่จะพาพวกเขาขึ้นไปสู่พื้นผิวดาวคอรัสซังค์

“ก็ได้ ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้นล่ะก็” ทรูพูดขึ้น

อนาคินมองหน้าทรูด้วยความสับสน “ถ้าข้าว่าอะไรนะ?”

“ที่ว่าตัวจ่ายพลังงานของหุ่นยนต์ของเจ้าเสียไง” ทรูอธิบาย “ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”

“วงจรสวิทช์เปิดเครื่องมันขาดตลอดเลย นี่เป็นตัวจ่ายอันที่สองแล้วนะ อันแรกมันระเบิดไปตอนที่ต่อมันเข้ากับหุ่น ข้าใช้เวลาตั้งสองอาทิตย์ที่จะซ่อมมัน”

“งั้นปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวจ่ายก็ได้” ทรูพูด “เจ้าตรวจวงจรเสริมการรับรู้ของหุ่นหรือยัง”

อนาคินส่ายหน้า “ตรงนั้นไม่ได้เสียนี่นา”

“ก็ใช่ แต่บางทีมันอาจจะไปเชื่อมกับวงจรสวิทช์เปิดเครื่องแล้วทำให้ตัวจ่ายพลังงานทำงานเกิดขีดกำหนดได้ไง มีอะไรแปลก ๆ กับเครื่องแปลงภาษาของหุ่นตอนที่ตัวจ่ายอันแรกระเบิดหรือเปล่า?”

“มีสิ” อนาคินตอบ “แปลกมากเลย ตอนนั้นหุ่นของข้าพูดออกมาเป็นภาษาเคอห์สิคเลยล่ะ”

“นั่นแหละจุดที่เสีย” ทรูกล่าว “ชุดวงจรการรับรู้มันลัดวงจรแล้วล่ะ ถ้าเป็นวงจรในหุ่นล่ามมันจะไปกระตุ้นเครื่องแปลงภาษาให้ทำงาน จริง ๆ มันเป็นปัญหาที่ซ่อมไม่ยากหรอก ง่ายกว่าการเปลี่ยนตัวจ่ายเยอะ”

อนาคินเหลือบไปมองร่างสูงผอมกระหร่องของทรู ทรูไม่เคยทำให้เขาประทับใจมาก่อนเลย บางครั้งอนาคินเคยนึกสงสัยว่าทรูจะเข้าถึงพลังดีพอที่จะเป็นเจไดได้จริงหรือ แต่เมื่อไม่นานมานี้ทรูก็ได้รับเลือกให้เป็นพาดาวันของไรกอล อัศวินเจไดที่เงียบขรึมแต่น่าเกรงขาม อนาคินเคยนึกสงสัยเรื่องนั้นเหมือนกัน

“ข้าไม่ยักกะรู้ว่าเจ้ารู้เรื่องหุ่นยนต์มากเหมือนกัน” อนาคินกล่าว

“ข้าไม่รู้หรอก ข้าแค่จับเล็กผสมน้อยไปเรื่อย” ทรูตอบ “ข้าชอบอ่านพวกคู่มือต่าง ๆ เวลาที่ว่างน่ะ หุ่นยนต์ ยานพาหนะ แผงวงจร ข้าอ่านหมดแหละ”

อนาคินโยนอะไหล่ตัวจ่ายพลังงานไปให้ทรู “เอาไปเถอะ ท่าทางข้าจะไม่ต้องใช้มันแล้วล่ะ”

ทรูยัดมันเข้าไปในกระเป๋าในเสื้อของเขา “ขอบใจ”

“ถ้าเจ้าพูดถูกหรอกนะ” อนาคินเสริม

“ถ้าข้าพูดผิด เจ้าค่อยมาเอาอะไหล่คืนก็ได้”

ทันใดนั้นอนาคินก็เริ่มจะเข้าใจว่าทำไมไรกอลถึงได้เลือกทรู ทรูมีลักษณะที่บ่งบอกถึงความมั่นใจในตนเอง นอกจากนั้นเขายังมีความสุขุมเยือกเย็น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะพบได้บ่อยนักในเหล่าเจไดฝึกหัดหรือแม้แต่ในเหล่าเจไดเอง อนาคินเองรู้ตัวว่าเขาเองยังมีความรู้สึกสับสนและไม่มั่นใจอยู่บ่อย ๆ เขาซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นไว้ แต่ดูเหมือนทรูจะมีไม่อะไรปกปิดอยู่ภายในใจของเขาเลย เขาเป็นแค่ทรูเท่านั้น

“ถ้าเจ้าวิเคราะห์เสร็จแล้วก็สรุปให้ข้าฟังด้วยแล้วกัน” ทรูพูดขึ้น

“วิเคราะห์หุ่นน่ะเหรอ?” อนาคินถาม

“เปล่า วิเคราะห์ตัวข้า” ทรูตอบ “เจ้ากำลังวิเคราะห์ข้าอยู่ไม่ใช่หรือไง?”

อนาคินยิ้ม เขาไม่พยายาที่จะปฏิเสธ “ข้ายังไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย”

ทรูหยิบเอาถุงลูกอมฟิกดาออกมาจากกระเป๋าและโยนมาให้อนาคินเม็ดหนึ่ง “น่าเสียดายที่ไม่มีคู่มือที่จะทำให้เข้าใจสิ่งมีชีวิตนะ นี่ ข้าก็ไม่ได้เก่งกาจเรื่องเครื่องยนต์กลไกอะไรนักหนาหรอก แต่ถ้าเจ้าต้องการข้าก็จะช่วยเจ้าซ่อมหุ่น เอาไหมล่ะ”

อนาคินไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอนั้น แต่แล้วเขาก็เข้าใจ

มีไม่กี่ครั้งนักหรอกที่จะมีใครเสนอให้ความช่วยเหลือกับเขา

คนส่วนมากจะเหมาเอาว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครเลย

“เอาสิ” อนาคินตอบ เพียงแค่พูดคำนั้นออกไปก็เหมือนกับเป็นการเปิดประตูออก ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาลืมมันไปเสียสนิท เมื่อก่อนเขาเคยรู้วิธีผูกมิตรกับคนอื่น เมื่อก่อนเขามีเพื่อนใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย มันกลายเป็นทักษะที่เขาทำหายไปนานแล้ว

สัญญาณคอมลิงค์เครื่องสื่อสารของเขาดังขึ้นทำให้เขาส่งเสียงครางอย่างขัดใจ เขารู้ดีว่าใครจะเรียกมาในเวลาเช่นนี้

“เจ้าอยู่ที่ไหน?” โอบี-วันถาม

อนาคินเหลียวไปมองรอบตัว เขายังอยู่ห่างจากวิหารเจไดอีกหลายชั้น อย่างน้อย ๆ ก็สองสามร้อยชั้นนั่นแหละ ถ้าเขาบอกอาจารย์ไปตามตรงโอบี-วันก็จะต้องรู้ว่าเขาไปทำอะไรมาแน่ ๆ

ทันใดนั้นทรูก็ก้าวเข้ามาอยู่ในรัศมีสัญญาณ “อาจารย์เคโนบี นี่ทรู เวลด์เองนะครับ อนาคินอยู่กับข้า ข้าขอให้เขาช่วย...เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย ตอนนี้เรากำลังจะกลับไปที่วิหารเจไดแล้วครับ”

“งั้นเหรอ” เสียงโอบี-วันฟังดูเหมือนจะประหลาดใจ “มาพบข้าด้วย อนาคิน ทันทีที่เจ้ากลับมาถึงที่นี่”

อนาคินปิดเครื่องสื่อสาร “ขอบใจนะ” เขากล่าวกับทรู “โอบี-วันคงไม่ค่อยชอบใจถ้าเขารู้ว่าข้าไปไหนมา”

“ไรกอลก็คงไม่ค่อยพอใจเหมือนกันแหละ” ทรูพูด

“ถ้าเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้เก่งเรื่องซ่อมหุ่นยนต์เท่าไหร่ แล้วเจ้าไปที่นั่นทำไมล่ะ” อนาคินถาม

“ข้ากำลังช่วย อาลี อลัน” ทรูตอบ “ตอนนี้เขาใช้หุ่นยนต์ช่วยทำงานในชั้นเด็กเล็กอยู่ ตัวจ่ายพลังงานของหุ่นตัวนั้นมันเสีย แล้วตอนนี้อะไหล่ของแผนกซ่อมบำรุงก็หมด ข้าก็เลยคิดว่าข้าจะทำให้เขาประหลาดใจเสียหน่อย”

อนาคินรู้สึกละอายใจ เขาต่อสู้แย่งชิงอะไหล่เพื่อตัวเขาเองในขณะที่ทรูกำลังทำความดีเพื่อคนอื่น เขาถอนใจ เวลาเช่นนี้แหละทำให้เขาสงสัยตัวเองว่าเขาจะได้เป็นเจไดจริง ๆ หรือ เจไดฝึกหัดอย่างทรูรู้จักการเสียสละอุทิศตน มันเป็นคุณสมบัติที่เขาเกรงว่าเขามีน้อยเสียเหลือเกิน

แล้วพวกเขาก็รีบกลับไปยังวิหารเจได เมื่อทั้งสองไปถึงนั้นทั้งวิหารตกอยู่ในความมืดและเงียบสนิท ทั้งคู่มุ่งตรงไปที่ลิฟท์

โอบี-วันเดินเลี้ยวมาจากมุมตึก เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าและใบหน้ากระดำกระด่างของอนาคิน

“ไปไหนมา?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

ทรูกับอนาคินมองหน้ากัน แล้วก็พูดออกมาพร้อม ๆ กัน

“คือว่า อาลี อลัน – “ ทรูเริ่ม

“แผนกซ่อมบำรุงขาดแคลนอะไหล่ – “ อนาคินเริ่มพูดบ้าง

โอบี-วันยกมือขึ้นโบก “เอาล่ะ ๆ ข้าไม่อยากรู้แล้ว ราตรีสวัสดิ์ ทรู”

ทรูคำนับด้วยความเคารพนบนอบก่อนที่จะรีบเดินหนีไปทางห้องพักของเขา โอบี-วันหันกลับพูดกับอนาคิน

“อนาคิน การอยู่ดึก ๆ เช่นนี้จะไม่เป็นผลดีแก่เจ้าเลยนะหากเจ้าจะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น”

“แต่พรุ่งนี้ข้าไม่มีภารกิจอะไรนี่” อนาคินพูด

“เจ้าแน่ใจหรือ พาดาวันน้อย? เจ้าสามารถมองทะลุเข้าไปในจิตใจของสภาเจไดได้หรืออย่างไร?”

“สภาเจไดต้องการพบเรา” อนาคินเดา ความตื่นเต้นก่อตัวขึ้นในใจเขา “ท่านหมายความว่าเรามีภารกิจต้องทำแล้ว?”

“อีกไม่นานเราก็จะรู้” โอบีวันพูดนิ่ง ๆ “สภาเจไดขอให้เราไปพบก่อนรุ่งสางของวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นไปนอนซะ ถ้าพรุ่งนี้ข้าเห็นเจ้าหาวแม้แต่ครั้งเดียวข้าจะไม่ให้เจ้าออกไปนอกเขตวิหารเจไดอีกเลย”
after all, it is often the cruelest and most conniving people who are most easily hurt.
User avatar
D.M.
ขั้น(จะ)คบไม่ได้แล้วนะ
 
Posts: 1002
Likes: 0 post
Liked in: 0 post
Joined: Sat 19 Oct 2002 13:42
Location: Beyond the Distant Star

Return to Galaxy Far, Far Away : Star Wars

Who is online

Users browsing this forum: No registered users and 13 guests

cron