[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4733: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4735: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4736: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/includes/functions.php on line 4737: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
JRISS! จริ๊ดจัดๆ • View topic - [แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 1

[แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 1

มันจะแปลกเกินไปไหมถ้าบอร์ดนี้จะไม่มีห้องที่พูดเรื่อง Star Wars ... เหอ เหอ

[แปล] Jedi Quest #1 The Way of the Apprentice : Chapter 1

Postby D.M. » Mon 21 Oct 2002 10:44

อนาคินเดินลงไปตามซอยแคบ ๆ ลึกลงไปจากพื้นผิวที่ทอประกายระยิบระยับดาวคอรัสซังค์ เขาเหน็บเปียที่เป็นเครื่องแสดงความเป็นพาดาวันไว้ในเสื้อและซ่อนดาบเลเซอร์ไว้ในเสื้อคลุม เพราะถึงแม้ว่าผู้คนจะเกรงใจเหล่าเจไดในเกือบทุกที่บนคอรัสซังค์แต่ความเกรงใจนั้นไม่ได้มีเผื่อแผ่มาถึงที่นี่ ที่ที่ไม่ไกลจากพื้นผิวดาวนี้เป็นที่อยู่ของคนที่รังเกียจสังคมที่ดีและใช้ความรู้สึกนั้นเป็นเหตุผลที่จะซ่อนตัวเองเสียให้พ้นจากสังคมทั่วไป ที่นี่ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ที่นี่...ทุกคนถูกเกลียดชังเท่า ๆ กัน

แม้แต่ยานแท็กซี่ก็ยังไม่ขับลงมาส่งผู้โดยสารไกลถึงขนาดนี้ อนาคินต้องใช้เวลากว่าชั่วโมงเดินลงมาตามทางลาดเพราะลิฟท์ที่จะพาลงมาที่นี่มักจะเสียอยู่เสมอ ๆ นี่ถ้าเพียงแต่เขามียานสปีดเดอร์เป็นของตัวเองนะ เขาคงจะสามารถเข้าไปเอาของที่ต้องการและกลับไปได้ในเวลาเพียงครึ่งเดียว แต่เจไดฝึกหัดอย่างเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้มีสปีดเดอร์เป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นพาดาวันแล้วก็เถอะ ถ้าจะว่ากันตามกฏแล้วเข้าไม่ควรจะออกมานอกวิหารถ้าโอบี-วันไม่อนุญาตเลยด้วยซ้ำ

“ถ้าจะว่ากันตามกฏ” เป็นวิธีการพูดเพื่อที่จะบอกว่าเจ้ากำลังจะทำผิดกฏ โอบี-วันคงต้องพูดแบบนั้นแน่ ๆ ถ้าเจ้าไม่ทำ ตามกฏ เจ้าก็ทำผิดกฏ

เขารักและเคารพอาจารย์ของเขาเป็นที่สุด แต่บางทีการที่โอบี-วันเป็นคนจริงจังเกินไปก็ทำให้ลำบากอยู่เหมือนกัน อนาคินไม่ได้ชื่นชอบการทำผิดกฏเกณฑ์ต่าง ๆ เท่าใดนัก เขาเพียงแต่อยากจะหาช่องโหว่ของกฏให้เจอเพื่อจะได้ทำอะไรที่เขาชอบเท่านั้นเอง

อนาคินรู้ดีว่าอาจารย์ของเขารู้เรื่องที่เขามักจะหลบออกมาในยามราตรี โอบี-วันมีญาณหยั่งรู้ที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือความคิดของผู้อื่นได้เร็วกว่าการกระพริบตาเสียอีก ต้องขอบคุณดวงจันทร์และดวงดาวที่โอบี-วันเลือกที่จะไม่สนใจการเดินเล่นในยามดึกของเขา ตราบใดที่อนาคินระมัดระวังตัวไม่ให้เข้าไปเจอปัญหา ตราบนั้นโอบี-วันก็มักจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสีย

อนาคินไม่ต้องการสร้างปัญหาให้โอบี-วัน แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไว้ได้ เมื่อราตรีคืบคลานเข้ามาและทั้งวิหารตกอยู่ในความเงียบ เมื่อเหล่าเจไดฝึกหัดต่างปิดไฟและสำรวมกายใจเพื่อการทำสมาธิหรือพักผ่อนหลับนอน เมื่อนั้นอนาคินมักจะไม่สามารถทำใจให้สงบได้ มนต์เสน่ห์แห่งท้องถนนภายนอกส่งเสียงร้องเรียกเขา เขามักจะมีงานต่าง ๆ ที่ต้องทำให้เสร็จ มีหุ่นยนต์ที่เขาสร้างหรือปรับปรุงอยู่ มีเศษชิ้นส่วนอะไหล่หรือสมบัติสนิมเขรอะที่ยังรอให้เขาไปพบ แต่ที่จริงแล้วเขาเพียงแต่อยากออกไปข้างนอก ไปอยู่ภายใต้หมู่ดาวเท่านั้นเอง

คนที่เคยเป็นทาสเท่านั้นจึงจะรู้รสชาติแห่งอิสระที่แท้จริง เขามักจะคิดเช่นนั้น

กองภูเขาเศษเหล็กที่เขาโปรดปรานตั้งอยู่ที่นี่ ในเบื้องลึกอันมืดมิดของตัวเมือง แสงไฟที่นี่ไม่ค่อยได้รับการซ่อมแซมและแสงระยิบระยับจากตัวเมืองเบื้องบนก็ส่องทะลุลงมาไม่ถึง ที่นี่คือจุดที่คนขายขยะจะเอาของที่ไม่ต้องการแล้วมาทิ้ง ของที่แม้แต่คนขายขยะก็ขายไม่ได้ ขยะเหล่านี้จะถูกทิ้งสุมกันเป็นกองสีเทาส่งกลิ่นควันเหม็นตลบ รอให้คนที่เป็นที่สุดของความจนมาเก็บเอาไป

การทะเลาะวิวาทกันมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำที่ภูเขาเศษเหล็กเหล่านี้ อนาคินโชคดีที่สามารถหลบเลี่ยงข้อพิพาทที่อาจจะกลายเป็นความรุนแรงแบบนั้นได้เสมอ แต่นอกจากคนจนเหล่านั้นแล้วก็ยังมีพวกมานิคอนที่เป็นเผ่าพันธุ์จากดาวที่สูญสลายไปในสงครามกลางเมืองที่ทำลายล้างทุกอย่าง ประชากรจำนวนน้อยนิดที่รอดชีวิตจากดาวนั้นต้องหนีตายมาอยู่ที่คอรัสซังค์ และตอนนี้พวกมานิคอนก็หากินเอาตัวรอดจากความฉลาดแกมโกงและอาวุธทุกอย่างที่มีอยู่ พวกมันพร้อมที่จะสู้จนถึงตายเพื่อไฮโดรสแปนเนอร์สนิมเขรอะแค่อันเดียว

อนาคินเดินลัดเลาะไปตามกองเศษเหล็กที่ส่งควันตลบ ปกติเขามักจะเลี่ยงที่จะต้องมาที่ลานภูเขาขยะแห่งนี้ แต่เขามีปัญหาในการซ่อมหุ่นยนต์เสีย ๆ ตัวหนึ่งและเขาก็เที่ยวไปหาอะไหล่ที่เขาต้องการตามแหล่งอื่น ๆ มาหมดแล้ว เขารู้ว่าอาจารย์ของเขาเห็นว่าการที่เขาใช้เวลากับการมานั่งซ่อมสร้างหุ่นยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ บางทีอาจารย์อาจจะถูกก็ได้ แต่อนาคินก็ยังจะทำต่อไป เขาต้องหาอะไรทำสักอย่างเพื่อจะได้ไม่ต้องสนใจเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขา เสียงที่ตั้งข้อสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะเป็นอัศวินเจไดผู้เก่งกล้าได้จริงหรือ เสียงที่ตอกย้ำเขาอยู่เสมอว่าเขาทอดทิ้งแม่ของเขามา

อนาคินส่ายหัว การสร้างและซ่อมหุ่นยนต์เป็นสายใยบางเบาที่เชื่อมตัวเขาในปัจจุบันเข้าไว้กับวัยเด็กบนดาวแททูอิน มันเป็นสายใยที่เขายังไม่อยากจะตัดทิ้ง

กลิ่นโลหะไหม้และสารอินทรีย์อะไรสักอย่างที่ไม่น่าอภิรมย์ลอยมากระทบจมูกอนาคิน เขาทำใจไม่รับรู้กลิ่นนั้นพร้อม ๆ กับกวาดตามองไปรอบ ๆ กองเศษเหล็ก

ต้องขอบคุณการฝึกฝนเพื่อเป็นเจไดของเขาที่ทำให้อนาคินมีสายตาที่แหลมคมแม้จะอยู่ในที่มืดก็ตาม อนาคินไม่อยากจะเสี่ยงใช้แท่งเรืองแสงเพราะจะเป็นการบอกใคร ๆ ว่ามีคนอยู่ ณ จุดนี้ และนั่นก็คงจะไม่ปลอดภัยนัก สู้ยอมต้องทำอะไร ๆ ในความมืดจะดีกว่า

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่พื้นในขณะที่เขาเดินไปเรื่อย ๆ บางทีจะมีชิ้นส่วนอะไหล่พลัดตกลงมาจากไฮโดรลิฟท์ยักษ์ที่เคยใช้ในการขนขยะเหล่านี้ เขาเคยได้ของดี ๆ หลายชิ้นจากการใช้เท้าเตะดินและกองขยะนี่แหละ

นั่นไง แผงวงจร ยังเกือบจะสมบูรณ์อยู่เลย อนาคินเอามันเช็ดเข้ากับเสื้อโดยไม่สนใจว่าดินที่ติดอยู่บนนั้นจะทิ้งรอยเปื้อนไว้บนเสื้อหรือไม่ ก่อนที่จะเหน็บมันไว้ที่เข็มขัด และนี่ อะไหล่ของไฮโดรสแปนเนอร์ เขาน่าจะเอาไปใช้ได้เผื่อว่าอันที่เขามีอยู่เกิดพังขึ้นมา การซ่อมของเก่าที่มีอยู่แล้วย่อมถูกกว่าการหาอันใหม่เลยเสมอ

เขากวาดตาสำรวจไปทั่ว ๆ กองเหล็กเบื้องหน้า สิ่งหนึ่งที่เขาอยากจะทำก็คือการสร้างเครื่องกำเนิดพลังงานไว้ในห้องของเขาเองเพื่อที่หุ่นยนต์ของเขาจะได้ไม่ต้องใช้พลังงานส่วนรวมของวิหารเจได ยิ่งเขาเก็บงานอดิเรกเล็ก ๆ ของเขาไว้พ้นหูพ้นตาคนอื่นได้มากเท่าไรก็จะยิ่งเป็นการดี

นั่นไง เขาเห็นอะไรบางอย่างอยู่ตรงส่วนยอดของกองเศษเหล็ก จะใช่แผงวงจรตัวจ่ายพลังงานหรือเปล่านะ ใช่แล้วล่ะ ทีนี้ถ้าเพียงแค่เขาจะสามารถกระโดดขึ้นไปบนนั้นได้โดยไม่ทำให้กองขยะทั้งหมดนั่นพังครืนลงมา เขากวาดสายตามองหาจุดที่จะกระโดดขึ้นไป มีท่อนเหล็กบุโรทั่งอยู่ท่อนหนึ่งที่ดูเหมือนจะวางอยู่บนเศษเหล็กอื่น ๆ อย่างมั่นคงใช้ได้ ถ้าเขากระโดดขึ้นไปบนนั้นอย่างนิ่มนวล เขาน่าจะทรงตัวอยู่บนท่อนเหล็กนั่นได้นานพอที่จะคว้าอะไหล่นั่นมาได้ เขาเป็นเจได และการทรงตัวของเขาก็ไม่มีที่ติ คิดได้เช่นนั้นแล้วอนาคินก็กระโดดขึ้นไป

เขากระโดดแล้วทิ้งตัวลงบนท่อนเหล็กแรงกว่าที่เขาตั้งใจเล็กน้อย กับลงน้ำหนักเท้าขวามากไปนิดหน่อย

เจ้ายังไม่ใช่เจไดเต็มตัวหรอก

เขาได้ยินเสียงเชิงตักเตือนนิ่ม ๆ ของโอบี-วันดังอยู่ในหัวแม้ในขณะที่เขากำลังพยายามทรงตัวไม่ให้เศษอะไหล่พังลงไปตามน้ำหนักตัวของเขา

เขาทรงตัวอยู่บนท่อนเหล็กนั้นอย่างระมัดระวัง พยายามให้กล้ามเนื้อคงความยืดหยุ่นในขณะที่ใจก็จดจ่ออยู่กับสิ่งของเบื้องหน้า ก่อนที่จะเอื้อมมือออกไป...

...เพียงเพื่อที่จะพบว่ามีมืออีกมือหนึ่งปรากฏขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของกองเศษเหล็ก มือที่ยื่นมาหยิบอะไหล่ชิ้นเดียวกัน ไม่ต้องสงสัยเลย เป็นพวกมานิคอนแน่ ๆ

เขาจะไม่ยอมให้มานิคอนตัวหนึ่งมาเป็นตัวขวางระหว่างเขากับตัวจ่ายพลังงานอันใหม่เด็ดขาด อนาคินโผไปข้างหน้าทันทีแต่เขาลืมคำนวนความมั่นคงของพื้นที่เขายืนอยู่ ทำให้ส่วนหนึ่งของกองเศษเหล็กเริ่มไหลลงไปด้านล่าง ดึงตัวเขาให้ตไถลตกลงไปด้วย เขารู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างหรือใครบางคนคว้าข้อเท้าของเขาไว้

เขาเสียหลักหงายหลังลงไปแต่ในขณะเดียวกันก็เอื้อมมือไปดึงตัวอะไรก็ไม่รู้ที่จับเขาไว้ นิ้วของเขาสัมผัสผ้าอะไรบางอย่างและยึดมันไว้มั่น ทั้งสองไหลกลิ้งตกลงมาตามกองเศษเหล็กด้วยกัน อนาคินชนเข้ากับอะไรแหลม ๆ และกระแทกเข้ากับท่อนเหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็กอีกกองหนึ่งแต่เขาก็ยังเหนี่ยวผ้าที่เขาจับได้ไว้แน่นในขณะที่ข้อเท้าของเขาก็ถูกตัวอะไรก็ไม่รู้นั่นจับไว้มั่นเหมือนกัน

ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงมาถึงพื้น อนาคินบิดเท้าออกอย่างแรงและลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ อีกร่างหนึ่งก็ทำเช่นเดียวกัน

ผ้าคลุมศีรษะของคู่ต่อสู้ของเขาเปิดออกไปด้านหลัง แล้วอนาคินก็พบว่าเขากำลังยืนประจันหน้าอยู่กับเจไดฝึกหัดอีกคนหนึ่ง ทรู เวลด์

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่” อนาคินขบกรามถาม

“นั่นมันอะไหล่ของข้านะ” ทรูตอบ “ข้าแตะมันได้ก่อน”

“ข้าก็กำลังจะเอื้อมไปหยิบ...”

“และก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ตอนนี้มันหายไปแล้ว”

ทันใดนั้นอนาคินก็มองเห็นชิ้นส่วนอะไหล่นั้นตกอยู่บนพื้นระหว่างเขาทั้งคู่ มันคงตกลงมาพร้อม ๆ กับพวกเขา เขาฉวยมันมาไว้ในมือ

“ไม่หายไปไหนแล้วล่ะ” เขาพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

“ส่งมาให้ข้านะ อนาคิน” ทรูกล่าว ดวงตาสีเงินของเขาเปล่งประกายวาว ทรูเป็นคนในเผ่าพันธุ์คล้ายมนุษย์จากดาวทีวาน ผิวของเขามีประกายสีเงินและเขามีรูปร่างที่ผอมสูงเก้งก้าง ชาวทีวานได้ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายยืดหยุ่นได้ดีมาก พวกเขาสามารถดัดตนเป็นรูปร่างพิศดารต่าง ๆ ได้มากมายอย่างน่าพิศวง อนาคินเพิ่งระลึกได้ว่าคุณสมบัตินี้เองทำให้ทรูเก่งในการต่อสู้มิใช่น้อย

“ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก” อนาคินบอก

“ข้าก็รู้ว่าเจ้าไม่กลัว” ทรูพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “ข้าจะไม่สู้กับเจ้าเพื่ออะไหล่ชิ้นนั้นหรอกนะ ข้าจะรอให้เจ้าทำสิ่งที่ควรทำเอง”

อนาคินทำหน้านิ่ว หลายครั้งที่เขาลืมตัวไปว่าเขาเป็นเจได ชั่วขณะหนึ่งเขากลับไปเป็นเด็กชายชาวทาสบนดาวแททูอินที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฏกติกาของโลกที่ทารุณโหดร้ายที่นั่น เจอก่อนได้ก่อน ขืนมัวแต่ลังเลก็อด

ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กชายชาวทาสคนนั้นแล้ว เขาเป็นเจได

“ข้ามีหุ่นล่ามอยู่ตัวนึง และตอนนี้ตัวจ่ายพลังงานของมันเสีย” เขากล่าว “ข้าต้องการอะไหล่ชิ้นนี้จริง ๆ นะ”

แต่ทรูไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย เขาหรี่ตามองเข้าไปในความมืดมิด “ข้าว่าเราเจอปัญหาแล้วล่ะ” เขาพูดเบา ๆ ก่อนจะให้สัญญาณให้อนาคินมองไปยังจุดเดียวกัน อนาคินเห็นรูปทรงของอะไรกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่เท่าใดนัก ...พวกมานิคอน

“ถ้าพวกเราอยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ” อนาคินพึมพำ “พวกมันก็จะไม่เห็นเรา” เขาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่แล้วเท้าของเขาก็พลาดไปเตะแผ่นเหล็กที่กระเด็นไปโดนเศษเหล็กอีกชิ้นหนึ่งพร้อมกับเสียงเคร้งดังลั่น

“นั่นเหรอที่เจ้าเรียกว่าเงียบน่ะ” ทรูเค่นเสียงลอดไรฟัน

พวกมานิคอนหันขวับมาตามเสียง พวกมันเห็นเจไดทั้งสองแล้ว

“บางทีถ้าพวกเราไม่เคลื่อนไหว มันอาจจะไม่เข้ามาก็ได้” อนาคินกระซิบ

เหล่ามานิคอนโหมเข้ามา

“ตั้งข้อสังเกตุได้ดีนี่” ทรูกล่าว “แต่มีไอเดียอะไรที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ?”

--------------------------------------------------------------------
after all, it is often the cruelest and most conniving people who are most easily hurt.
User avatar
D.M.
ขั้น(จะ)คบไม่ได้แล้วนะ
 
Posts: 1002
Likes: 0 post
Liked in: 0 post
Joined: Sat 19 Oct 2002 13:42
Location: Beyond the Distant Star

Return to Galaxy Far, Far Away : Star Wars

Who is online

Users browsing this forum: No registered users and 13 guests

cron