Star Wars : The first mission VIII (เรากลับมาอีกครั้ง...)
Posted: Thu 16 Oct 2003 13:10
สวัสดีค่าาาาาา...หนีห่าว
มาแปะฟิคต้อนรับเอเปค(เห็นฮิตกันจัง) แฮะๆ..ก็ยังสั้นๆเหมือนเดิม
เก๊าะ...ข้าเจ้าม่ะค่อนมีเวลาว่างพิมพ์อ่า..ท่าน ก็นะ แค่นี้ไปก่อนละกัน
ก็ขอให้มีความสุขวันหยุดยาวกันละกันนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------
Star Wars : The first mission VIII
อุปกรณ์สื่อสารใหม่ล่าสุด รุ่นประดิษฐ์เอง โดย อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ถูกโยนลงกระเป๋าเป็นชิ้นสุดท้าย ดูเหมือนว่า เด็กหนุ่มจะพร้อมเดินทางแล้ว แต่เจ้าตัวกลับเดินไปเดินมา - - ข้าว่า ข้าลืมอะไรไปอย่างน๊าาา..- -
ปอบผมที่เปียกน้ำจากการสระผมสะบัดมาโดนแก้ม อนาคินเอาผ้าเช็ดอย่างลวกๆ
ใช่แล้ว!! เปีย!!!
เด็กชายรีบวิ่งออกมาจากห้องตรงไปกอดด้านหลังอาจารย์ที่กำลังนั่งตั้งใจดูทีวีอยู่ ราวกับเจ้าลูกชายตัวแสบวิ่งกอดคุณพ่อ โอบีวันเหลียวมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มบริสุทธิ์ และดวงตาที่เป็นประกาย - - เฮ้อ อาการหยั่งงี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆจากเจ้านี่เลยนะเนี่ย.. - -
มีอะไร? ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นในที่สุด หลังจากรู้สึกตัวว่าจ้องนานเกินไป
อนาคินยิ้มพร้อมกับหอมแก้มอาจารย์แล้วพูดว่า ถักเปียให้หน่อยสิ ^_^
นี่ เจ้าสมควรจะถักเองได้แล้วนะ สมัยข้า ไม่เห็นอาจารย์ไควกอนจะถักให้หยั่งงี้เลย
โธ่ๆ ก็อาจารย์ไควกอนเค้าคงไม่ได้พิศวาสท่านมั้ง -
แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ตั้งพูดนัก แต่ ** กระแทกใจอย่างแรง ** โอบีวันเอาแขนเจ้าลูกศิษย์ตัวดีออกจากคอ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้า แล้วข้าพิสวาสเจ้านักรึไง??
เด็กหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย ถามตัวท่านเเองดูสิ ว่าพิศวาสข้ารึเปล่า??
อนาคินยิ้มอีกครั้ง - - รู้สึกสะใจแฮะ อาจารย์น่ารักชะมัดเลย โดยเฉพาะปฏิกิริยาโต้ตอบทางสีหน้า 55ต้องแกล้งอีก - -
หลังจากนิ่งเงียบอึ้งอยู่นาน โอบีวันก็รวบปอยผมของเด็กหนุ่ม และเริ่มถักเปียอย่างประณีตและเบามือ สายตาเด็กหนุ่มจับจ้องที่อาจารย์ ขณะที่สายตาอาจารย์จับจ้องที่ปอยผม อนาคินอดไม่ได้ที่จะยิ้ม นี่หมายความว่า ท่านพิศวาสข้า - - 555สะใจเจรงๆ - - โอบีวัน เคโนบี พยายามอย่างยิ่งที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่มันก็ได้ยินไปแล้วล่ะ - - พิศวาสหรอ??? พิศวาส เปล่า!! ไม่ใช่นะ!!! ทำไมเจ้านี่ต้องใช้คำว่าพิศวาสด้วย ข้าเปล่าซักหน่อย ไม่ได้พิศวาส หรือพิศวาส ไม๊!!!!!! ไม่ๆๆๆ ไม่ซักหน่อย เราเป็นอะไรไปเนี่ย..- -
10 นาที กับการถักเปียมันช่างยาวนานราวกับ 10 ปี ในความรู้สึกของโอบีวัน เราควรจะไปกันได้แล้วนะ ชายหนุ่มพูดพลางแบกสัมภาระของตัวเอง แล้วเดินออกไปจากห้อง โดยไม่สนใจพ่อหนูแอนี่ที่ร้องเรียกและวิ่งตามมา
ไง สีหน้ามีความสุขดีนี่ มีเรื่องดีๆรึไง? เมิร์ซกล่าวกับอนาคิน ทันทีที่อนาคินมาถึงยาน
ใช่ มันดีกว่าการเจอหน้าเจ้า หลายร้อยเท่าเลยล่ะ อนาคินพูดตัดเยื่อใย ก่อนจะเชิดหน้าเดินขึ้นยานโดยไม่หันกลับมามอง
ข้าต้องขอโทษแทนเจ้านั่นด้วยนะ เมอร์คิวชิโอ เค้าก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แต่ทิฐิมันสูง โอบีวันผู้รักสงบกล่าวขึ้น
ไม่เป็นไรครับ อาจารย์เคโนบี นานๆไปเค้าก็ต้องลดทิฐิลงเอง เชื่อผมสิ เด็กชายยิ้มด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับอนาคินตอนสะใจที่ได้แกล้งอาจารย์ และเดินขึ้นไปบนยานเป็นคนที่สอง ปล่อยให้ท่านอาจารย์ผู้อาวุโสทั้งสองเดินตามขึ้นไปทีหลัง
อนาคินไปที่ห้องนักบิน วิธีการขับเครื่องบินเข้ามากินพื้นที่ของความคิดในขณะนี้ เด็กหนุ่มรู้ตัว เค้าคิดถึงมัน คิดถึงการบิน ยานรุ่นใหม่ของเจได สามารถควบคุมเครื่องเองได้โดยอัตโนมัติโดยระบุเพียงจุดหมายปลายทาง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ กวาดตาดูจอคอมพิวเตอร์มากมาย ที่ช่องของ destination เขียนว่า ทาทูอีน อนาคินเอ่ย เรากำลังจะไปทาทูอีนหรอ?? ทำไมอาจารย์ไม่บอกข้าล่ะ ไหนว่าจะไปดาวเล็กๆที่อยู่ปลายสุดขอบเขตการปกครองของสหพันธรัฐไง - - อืม มันต้องมีอะไรในกอหญ้าแน่ๆ - -
สนใจอะไรหรอ? สกายวอล์คเกอร์ เสียงที่เยือกเย็นปลุกอนาคินให้ตื่นจากความคิด
เรากำลังจะไปทาทูอีนหรอ?? อนาคินถามเด็กหนุ่มซึ่งบัดนี้มายืนอยู่เบื้องหน้าของเขา
ข้าจะแวะไปเอาของบางอย่างน่ะ ไม่นานหรอก เมิร์ซตอบ
เอาอะไร?
อะไรบางอย่างที่มันต้องใช้ในภารกิจนี้ เจ้าอย่ารู้เลย
ทำไมข้าจะรู้ไม่ได้ บอกมา
แล้วทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย
ก็ ข้าเป็นหนึ่งในคณะนี้ ข้ามีสิทธิ์ที่จะรู้
แต่ข้ามีสิทธิ์ที่จะไม่บอกเจ้า
ทั้งสองคนยืนจ้องกันอย่างสงบนิ่ง ราวกับจะฉีกเชือดสูบเลือดกินกันไปข้างนึง แม้แต่แอร์ที่เย็นฉ่ำก็ไม่สามารถดับไฟโทสะ ที่โชติช่วงอยู่ภายในใจเด็กหนุ่มทั้งสองได้
มันไม่สำคัญนักหรอก..แอนี่ และมันก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่เจ้าจะต้องรู้
อนาคินอยากใช้ดาบฟัน เมอร์คิวชิโอ เรคอฟล่า ใจจะขาด แต่ด้วยพื้นที่ที่ไม่กว้างขวางนักของห้องนักบินที่ไม่ต้องการนักบิน ทำให้เด็กชายไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ ทาทูอีนเป็นบ้านเกิดข้า อนาคิน สกายวอล์คเกอร์เอ่ยขึ้นในที่สุด ข้าจำเป็นต้องรู้ว่า เจ้าจะไปเอาอะไรที่นั่น
มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย แอนี่
เจ้าไม่มีสิทธิ์มาเรียกข้าว่า แอนี่ นะ
เก๊าะ ข้าเห็นอาจารย์เจ้า เรียกเจ้าหยังงั้นหนิ
แล้วเจ้าเป็นอาจารย์ข้ารึไง
ยังไม่ทันที่อนาคินจะพูดต่อ เด็กหนุ่มก็ถูกอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากถูกประกบปิดแน่น ไม่มีทางที่ประโยคใดๆ จะหลุดลอดออกมาได้ ก้อนเนื้อสีชมพูในปากได้เกี่ยวกระหวัดรัดจนริมฝีปากจำต้องเผยอเล็กน้อย เพราะเกรงจะขาดอากาศ ไฟราคะผลักดันให้ทั้งคู่ล้มลงที่มุมห้อง แม้อยากจะหนี ก็ยากที่จะหนีได้ อนาคินพยายามสุดแรงที่จะดัน
เมิร์ซออกไปจากตัวเขา - - ทำไมถึงไม่มีแรงสู้เลยล่ะเนี่ย - - อนาคินหน้าแดงเพราะความร้อน - - ตอนนั้น..อาจารย์จะรู้สึกแบบนี้รึเปล่านะ..- - อนาคินผลักตัวเมอร์คิวชิโออีกครั้ง ป..ป ปล่อย..ข้า..นะ..
เมอร์ซี่ (ในที่นี้คือ เมอร์คิวชิโอ) หัวเราะอย่างเยือกเย็น ไอ้ความอวดดีเมื่อกี้ของเจ้า มันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ..
เสียงกุกกัก ในห้องนักบินสร้างความสงสัยแก่โอบีวัน เคโนบียิ่งนัก แม้ลางสังหรณ์จะเตือนแล้วเตือนอีกว่า อย่าเปิด อย่าเปิด แต่ใจมันอยากเปิดนี่นา
มีปัญหาอะไรรึเปล่า พาดาวัน ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มจำต้องถามเช่นนั้น
อ๋อ..เปล่า..ไม่มีอะไรฮะ เมอร์ซี่ ซึ่งบัดนี้ยืนขึ้นแล้ว ยิ้มให้โอบีวัน เผอิญแอนี่เดินสะดุดน่ะฮะ เราก็เลยพากันล้ม เขามองแอนี่แวบนึง ก่อนจะหน้าระรื่นออกไป
โอบีวัน เคโนบี มองไปที่พื้นห้อง มันราบเรียบซะจนน่าจะลื่นล้มมากกว่าสะดุดล้ม เขามองเด็กชาย แต่เด็กชายกลับไม่ยอมสบตาเขา
สะดุดอะไรล้มน่ะ แอนี่??
สะดุดอากาศมั้ง เด็กชายผู้ไม่ยอมสบตากล่าว พร้อมกับพาร่างออกจากห้องควบคุมอย่างรวดเร็ว
ไม่น่าสงสัยเลยว่า โอบีวัน เคโนบี จะสงสัยรึเปล่า เพราะเขากำลังสงสัยอยู่แน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านกันนะคะ
ยังไงก็ต้องขอคำแนะนำหยั่งเดิมอ่ะค่ะ...ใครมีอะไรจะบอกจะกล่าวก็โพสบอกข้าเจ้ามั่งก็ได้นะเจ้าคะ
May the force be with you.
Bye
มาแปะฟิคต้อนรับเอเปค(เห็นฮิตกันจัง) แฮะๆ..ก็ยังสั้นๆเหมือนเดิม
เก๊าะ...ข้าเจ้าม่ะค่อนมีเวลาว่างพิมพ์อ่า..ท่าน ก็นะ แค่นี้ไปก่อนละกัน
ก็ขอให้มีความสุขวันหยุดยาวกันละกันนะคะ
---------------------------------------------------------------------------------
Star Wars : The first mission VIII
อุปกรณ์สื่อสารใหม่ล่าสุด รุ่นประดิษฐ์เอง โดย อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ถูกโยนลงกระเป๋าเป็นชิ้นสุดท้าย ดูเหมือนว่า เด็กหนุ่มจะพร้อมเดินทางแล้ว แต่เจ้าตัวกลับเดินไปเดินมา - - ข้าว่า ข้าลืมอะไรไปอย่างน๊าาา..- -
ปอบผมที่เปียกน้ำจากการสระผมสะบัดมาโดนแก้ม อนาคินเอาผ้าเช็ดอย่างลวกๆ
ใช่แล้ว!! เปีย!!!
เด็กชายรีบวิ่งออกมาจากห้องตรงไปกอดด้านหลังอาจารย์ที่กำลังนั่งตั้งใจดูทีวีอยู่ ราวกับเจ้าลูกชายตัวแสบวิ่งกอดคุณพ่อ โอบีวันเหลียวมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มบริสุทธิ์ และดวงตาที่เป็นประกาย - - เฮ้อ อาการหยั่งงี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆจากเจ้านี่เลยนะเนี่ย.. - -
มีอะไร? ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นในที่สุด หลังจากรู้สึกตัวว่าจ้องนานเกินไป
อนาคินยิ้มพร้อมกับหอมแก้มอาจารย์แล้วพูดว่า ถักเปียให้หน่อยสิ ^_^
นี่ เจ้าสมควรจะถักเองได้แล้วนะ สมัยข้า ไม่เห็นอาจารย์ไควกอนจะถักให้หยั่งงี้เลย
โธ่ๆ ก็อาจารย์ไควกอนเค้าคงไม่ได้พิศวาสท่านมั้ง -
แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ตั้งพูดนัก แต่ ** กระแทกใจอย่างแรง ** โอบีวันเอาแขนเจ้าลูกศิษย์ตัวดีออกจากคอ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้า แล้วข้าพิสวาสเจ้านักรึไง??
เด็กหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย ถามตัวท่านเเองดูสิ ว่าพิศวาสข้ารึเปล่า??
อนาคินยิ้มอีกครั้ง - - รู้สึกสะใจแฮะ อาจารย์น่ารักชะมัดเลย โดยเฉพาะปฏิกิริยาโต้ตอบทางสีหน้า 55ต้องแกล้งอีก - -
หลังจากนิ่งเงียบอึ้งอยู่นาน โอบีวันก็รวบปอยผมของเด็กหนุ่ม และเริ่มถักเปียอย่างประณีตและเบามือ สายตาเด็กหนุ่มจับจ้องที่อาจารย์ ขณะที่สายตาอาจารย์จับจ้องที่ปอยผม อนาคินอดไม่ได้ที่จะยิ้ม นี่หมายความว่า ท่านพิศวาสข้า - - 555สะใจเจรงๆ - - โอบีวัน เคโนบี พยายามอย่างยิ่งที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่มันก็ได้ยินไปแล้วล่ะ - - พิศวาสหรอ??? พิศวาส เปล่า!! ไม่ใช่นะ!!! ทำไมเจ้านี่ต้องใช้คำว่าพิศวาสด้วย ข้าเปล่าซักหน่อย ไม่ได้พิศวาส หรือพิศวาส ไม๊!!!!!! ไม่ๆๆๆ ไม่ซักหน่อย เราเป็นอะไรไปเนี่ย..- -
10 นาที กับการถักเปียมันช่างยาวนานราวกับ 10 ปี ในความรู้สึกของโอบีวัน เราควรจะไปกันได้แล้วนะ ชายหนุ่มพูดพลางแบกสัมภาระของตัวเอง แล้วเดินออกไปจากห้อง โดยไม่สนใจพ่อหนูแอนี่ที่ร้องเรียกและวิ่งตามมา
ไง สีหน้ามีความสุขดีนี่ มีเรื่องดีๆรึไง? เมิร์ซกล่าวกับอนาคิน ทันทีที่อนาคินมาถึงยาน
ใช่ มันดีกว่าการเจอหน้าเจ้า หลายร้อยเท่าเลยล่ะ อนาคินพูดตัดเยื่อใย ก่อนจะเชิดหน้าเดินขึ้นยานโดยไม่หันกลับมามอง
ข้าต้องขอโทษแทนเจ้านั่นด้วยนะ เมอร์คิวชิโอ เค้าก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แต่ทิฐิมันสูง โอบีวันผู้รักสงบกล่าวขึ้น
ไม่เป็นไรครับ อาจารย์เคโนบี นานๆไปเค้าก็ต้องลดทิฐิลงเอง เชื่อผมสิ เด็กชายยิ้มด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับอนาคินตอนสะใจที่ได้แกล้งอาจารย์ และเดินขึ้นไปบนยานเป็นคนที่สอง ปล่อยให้ท่านอาจารย์ผู้อาวุโสทั้งสองเดินตามขึ้นไปทีหลัง
อนาคินไปที่ห้องนักบิน วิธีการขับเครื่องบินเข้ามากินพื้นที่ของความคิดในขณะนี้ เด็กหนุ่มรู้ตัว เค้าคิดถึงมัน คิดถึงการบิน ยานรุ่นใหม่ของเจได สามารถควบคุมเครื่องเองได้โดยอัตโนมัติโดยระบุเพียงจุดหมายปลายทาง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ กวาดตาดูจอคอมพิวเตอร์มากมาย ที่ช่องของ destination เขียนว่า ทาทูอีน อนาคินเอ่ย เรากำลังจะไปทาทูอีนหรอ?? ทำไมอาจารย์ไม่บอกข้าล่ะ ไหนว่าจะไปดาวเล็กๆที่อยู่ปลายสุดขอบเขตการปกครองของสหพันธรัฐไง - - อืม มันต้องมีอะไรในกอหญ้าแน่ๆ - -
สนใจอะไรหรอ? สกายวอล์คเกอร์ เสียงที่เยือกเย็นปลุกอนาคินให้ตื่นจากความคิด
เรากำลังจะไปทาทูอีนหรอ?? อนาคินถามเด็กหนุ่มซึ่งบัดนี้มายืนอยู่เบื้องหน้าของเขา
ข้าจะแวะไปเอาของบางอย่างน่ะ ไม่นานหรอก เมิร์ซตอบ
เอาอะไร?
อะไรบางอย่างที่มันต้องใช้ในภารกิจนี้ เจ้าอย่ารู้เลย
ทำไมข้าจะรู้ไม่ได้ บอกมา
แล้วทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย
ก็ ข้าเป็นหนึ่งในคณะนี้ ข้ามีสิทธิ์ที่จะรู้
แต่ข้ามีสิทธิ์ที่จะไม่บอกเจ้า
ทั้งสองคนยืนจ้องกันอย่างสงบนิ่ง ราวกับจะฉีกเชือดสูบเลือดกินกันไปข้างนึง แม้แต่แอร์ที่เย็นฉ่ำก็ไม่สามารถดับไฟโทสะ ที่โชติช่วงอยู่ภายในใจเด็กหนุ่มทั้งสองได้
มันไม่สำคัญนักหรอก..แอนี่ และมันก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่เจ้าจะต้องรู้
อนาคินอยากใช้ดาบฟัน เมอร์คิวชิโอ เรคอฟล่า ใจจะขาด แต่ด้วยพื้นที่ที่ไม่กว้างขวางนักของห้องนักบินที่ไม่ต้องการนักบิน ทำให้เด็กชายไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ ทาทูอีนเป็นบ้านเกิดข้า อนาคิน สกายวอล์คเกอร์เอ่ยขึ้นในที่สุด ข้าจำเป็นต้องรู้ว่า เจ้าจะไปเอาอะไรที่นั่น
มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย แอนี่
เจ้าไม่มีสิทธิ์มาเรียกข้าว่า แอนี่ นะ
เก๊าะ ข้าเห็นอาจารย์เจ้า เรียกเจ้าหยังงั้นหนิ
แล้วเจ้าเป็นอาจารย์ข้ารึไง
ยังไม่ทันที่อนาคินจะพูดต่อ เด็กหนุ่มก็ถูกอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากถูกประกบปิดแน่น ไม่มีทางที่ประโยคใดๆ จะหลุดลอดออกมาได้ ก้อนเนื้อสีชมพูในปากได้เกี่ยวกระหวัดรัดจนริมฝีปากจำต้องเผยอเล็กน้อย เพราะเกรงจะขาดอากาศ ไฟราคะผลักดันให้ทั้งคู่ล้มลงที่มุมห้อง แม้อยากจะหนี ก็ยากที่จะหนีได้ อนาคินพยายามสุดแรงที่จะดัน
เมิร์ซออกไปจากตัวเขา - - ทำไมถึงไม่มีแรงสู้เลยล่ะเนี่ย - - อนาคินหน้าแดงเพราะความร้อน - - ตอนนั้น..อาจารย์จะรู้สึกแบบนี้รึเปล่านะ..- - อนาคินผลักตัวเมอร์คิวชิโออีกครั้ง ป..ป ปล่อย..ข้า..นะ..
เมอร์ซี่ (ในที่นี้คือ เมอร์คิวชิโอ) หัวเราะอย่างเยือกเย็น ไอ้ความอวดดีเมื่อกี้ของเจ้า มันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ..
เสียงกุกกัก ในห้องนักบินสร้างความสงสัยแก่โอบีวัน เคโนบียิ่งนัก แม้ลางสังหรณ์จะเตือนแล้วเตือนอีกว่า อย่าเปิด อย่าเปิด แต่ใจมันอยากเปิดนี่นา
มีปัญหาอะไรรึเปล่า พาดาวัน ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มจำต้องถามเช่นนั้น
อ๋อ..เปล่า..ไม่มีอะไรฮะ เมอร์ซี่ ซึ่งบัดนี้ยืนขึ้นแล้ว ยิ้มให้โอบีวัน เผอิญแอนี่เดินสะดุดน่ะฮะ เราก็เลยพากันล้ม เขามองแอนี่แวบนึง ก่อนจะหน้าระรื่นออกไป
โอบีวัน เคโนบี มองไปที่พื้นห้อง มันราบเรียบซะจนน่าจะลื่นล้มมากกว่าสะดุดล้ม เขามองเด็กชาย แต่เด็กชายกลับไม่ยอมสบตาเขา
สะดุดอะไรล้มน่ะ แอนี่??
สะดุดอากาศมั้ง เด็กชายผู้ไม่ยอมสบตากล่าว พร้อมกับพาร่างออกจากห้องควบคุมอย่างรวดเร็ว
ไม่น่าสงสัยเลยว่า โอบีวัน เคโนบี จะสงสัยรึเปล่า เพราะเขากำลังสงสัยอยู่แน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านกันนะคะ
ยังไงก็ต้องขอคำแนะนำหยั่งเดิมอ่ะค่ะ...ใครมีอะไรจะบอกจะกล่าวก็โพสบอกข้าเจ้ามั่งก็ได้นะเจ้าคะ
May the force be with you.
Bye