==========================================
เขาไม่ได้รู้มาก่อนว่ายานโดยสารที่พาเขาไปที่นาบูกำลังจะพาเขาไปสู่ภารกิจที่จะกลายเป็นภารกิจสุดท้ายที่เขาได้ทำร่วมกับไควกอน แต่ตอนนั้นทั้งสองก็เข้าใจตรงกันว่าเวลาที่ไควกอนจะเสนอต่อสภาเจไดให้เขาเข้ากับการทดสอบนั้นใกล้เข้ามาทุกที โอบีวันรู้ตัวดีว่าเขาพร้อมสำหรับการทดสอบแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่พร้อมที่จะต้องจากอาจารย์ไป เขาตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ลังเลที่จะก้าวออกมาจากความคุ้มครองที่เขาได้จากการทำงานร่วมกับไควกอน สิ่งที่ทำให้เขายังคงพอใจที่จะอยู่ในจุดที่เขาอยู่นั้นหาใช่ความประหวั่นพรั่นพรึงอันใด หากแต่เป็นความทุ่มเท ความภักดี มิตรภาพ และความรักต่างหาก
ระหว่างทาง ทั้งสองพูดคุยสนทนากันมากกว่าทุกครั้ง ไควกอนอยู่ในอารมณ์อยากจะคุยที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และทั้งสองคนก็รำลึกความหลังกันถึงภารกิจเก่า ๆ คนรู้จัก เพื่อนร่วมงานที่เคยได้พบ ทั้งสองแบ่งปันเสียงหัวเราะเมื่อพูดถึงเรื่องของดิดิ ออดโด้ เพื่อนที่มักจะมีปัญหาให้ต้องตามแก้เสมอ ทั้งคู่นั่งคุยกันถึงสองพี่น้อง กัวเอราและแพกซซี่ที่ตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวใหญ่มีอิทธิพลอยู่บนฟินดาร์ดาวบ้านเกิดของพวกเขา นาน ๆ ครั้งใบหน้าของไควกอนก็จะหมองลง และนั่นก็ทำให้โอบีวันรู้ว่าเขากำลังคิดถึงทาห์ล คนที่เขาเคยรัก ทาห์ลเสียชีวิตระหว่างภารกิจบนดาวนิวแอพโซลอนทั้ง ๆ ที่ทั้งสองใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่ช่วยเธอไว้ให้ได้
นักบินหรี่ไฟลงเมื่อถึงเวลานอน แต่ทั้งไควกอนและโอบีวันก็ไม่ได้ขยับจากที่ของตัว ทั้งคู่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่อยากที่จะลุกขึ้นจากจุดนั้นไปยังส่วนที่จัดไว้เป็นที่นอน ความเงียบเคลื่อนเข้ามาอยู่ระหว่างเขาทั้งสองคน เหมือนเป็นเพื่อนรู้ใจที่เดินทางด้วยกันมานาน และในความเงียบงันและมืดมิดนั้นเองที่โอบีวันได้ถามคำถามที่ติดอยู่ในใจของเขามาหลายเดือน
"มาสเตอร์ครับ บอกข้าได้ไหมว่ายังมีอะไรที่ข้ายังขาดอยู่อีก? มีอะไรหรือเปล่าที่ข้ามองข้ามไปและยังต้องการการปรับปรุงอยู่?"
แสงไฟสลัวเสียจนเขาไม่สามารถเห็นใบหน้าของไควกอนได้ชัดเจนเสียแล้ว "เจ้าหมายความถึงจุดอ่อนข้อด้อยของเจ้าอย่างนั้นเหรอ โอบีวัน?"
"ใช่ครับ ท่านเคยบอกข้าว่าข้ากังวลมากเกินไป และข้าก็พยายามแก้ตรงจุดนั้นแล้ว"
"อา หมายความว่าเจ้ากำลังกังวลว่าเจ้ากังวลมากไปอย่างนั้นสิ?" น้ำเสียงของไควกอนอ่อนโยน เขาแค่กำลังล้อโอบีวันอยู่เท่านั้น
"ข้าไม่ค่อยจะมีความอดทนให้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ สักเท่าใดนักด้วย นั่นข้าก็รู้ และบางที ข้าว่าข้าคงจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากไปหน่อยนะครับ ข้าว่า"
เมื่อไควกอนพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาจริงจังขึ้นไม่ใช่น้อย "ที่เจ้าพูดมาก็จริง โอบีวัน แต่ข้าไม่อยากจะถือว่านั่นเป็นจุดอ่อนหรอก ข้าเห็นมาตลอดว่าเจ้าพยายามมากเพียงใด และข้าก็เห็นว่าเข้าได้พัฒนาไปเพียงใด"
"ถ้าอย่างนั้นอะไรคือจุดอ่อนของข้าล่ะครับ?" โอบีวันถาม
ความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วทั้งยานเป็นเวลานานเสียจนโอบีวันนึกสงสัยว่าไควกอนจะเข้าสู่ภวังค์ไปแล้วหรือเปล่า แต่แล้วเสียงทุ่มอ่อนโยนของอาจารย์ก็ดังขึ้นในความมืดมิด
"เจ้าจะเป็นอัศวินเจไดที่เก่งกล้าสามารถ โอบีวัน เคโนบี ข้ารู้เรื่องนั้นแน่ชัดอยู่ทุกลมหายใจ ทุกจังหวะการเต้นของหัวใจข้า เจ้าจะทำให้ข้าภูมิใจที่ข้าได้อยู่กับเจ้าในตอนที่เจ้าเริ่มทำทุกสิ่งทุกอย่าง และถ้าหากว่าเจ้าจะมีจุดอ่อนอะไรอยู่บ้าง บางทีจุดอ่อนนั้นก็อาจจะเป็นแค่ว่า..เจ้าพยายามจะทำให้ข้าพอใจมากเกินไป เท่านั้นเอง"
==========================================
อิอิ เล่นทายปริศนากันดีก่า ไอ้ที่เอามาแปะนี่เป็นอะไร มาจากไหนเอ่ย (รู้แล้วแบบ seya กับ scarฯ ห้ามตอบอีกตามระเบียบ)