[align=center]บทที่ห้า[/align]
เช้าวันรุ่งขึ้น เคิร์ธกับลิวมัสเข้ารับรายละเอียดและทบทวนข้อมูลบางอย่างจากที่ประชุมแล้วจึงไปที่ท่าจอดยาน ทั้งสองรับหุ่นรุ่น R2 มาเป็นผู้ช่วยนักบินในยาน โชคร้ายสำหรับลิวมัส เพราะเขาได้หุ่น R2D2 รุ่นเก๋ากึ้กตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐมาใช้เพราะไม่มีตัวอื่นเหลือ ดูท่าว่า R2D2 จะดีใจมากที่ได้เริ่มเดินเครื่องอีกครั้งเสียที (ปิ๊โปะ ^^)
ทั้งสองพูดคุยกันอีกเล็กน้อยที่ท่าจอดยาน หลังจากที่เคิร์ธกำชับลิวมัสเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว (อย่าไปติดยาจากที่นั่นมาเสียล่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ ฉันเอาเธอตายแน่!) ทั้งสองก็แยกย้ายกันขึ้นยานรบเครื่องยนต์ไอออนสามสำหรับภารกิจเจไดโดยเฉพาะ(JD-3IE) หลังจากที่หุ่น R2 ทั้งสองตัวถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ทั้งเคิร์ธทั้งลิวมัสก็เดินเครื่อง แล้วขับยานออกมาจากท่า แต่ไปคนละทาง
เคิร์ธบังคับยานไปยังเครื่องนำร่อง GT-823 หมายเลข 927 แล้วกำหนดเป้าหมายไปที่นาร์ ชาดด้า (อยู่ใกล้ ๆ กับ นาล ฮัตต้า บางทีถ้าเขามีเวลาพอ เขาน่าจะไปขอโทษพวกฮัทท์ที่พลั้งมือเป็นเหตุให้ทิงกิสเสียชีวิต แต่คิดอีกทีอย่าดีกว่า จะโดนตั้งค่าหัวซะสูงลิบลิ่วจนไปไหนมาไหนไม่ได้เอาเสียเปล่า ๆ) หลังจากที่เคิร์ธเดินเครื่อง ตัวนำร่องก็พาเขาเข้าสู่ไฮเปอร์สเปซ มุ่งหน้าสู่นาร์ ชาดด้า ในทันที
อีกฟากหนึ่งของเมรานุส ลิวมัสก็กำลังบอก R2D2 ให้ตั้งระบบนำร่องอัตโนมัติของตัวยานไปยังคอราซานส์ เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องนำร่องไฮเปอร์สเปซ เพราะเมรานุสกับคอราซานส์อยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก ปัญหาอยู่ที่ R2D2 ทำตัวเหมือนพวกผู้ใหญ่อาวุโสที่อยากให้ลิวมัสบังคับยานเองเสียมากกว่า นัยว่าเป็นการฝึกยังไงยังงั้น (ปิ๊โปะปิ๊ป --) ทำเอาลิวมัสหลงทางอยู่พักใหญ่และเกือบไปโผล่ที่คอมม์แทนเสียนี่
แต่อีกที่หนึ่ง ออร์พกับฮารากำลังอยู่บนแอร์แท็กซี่ ซึ่งกำลังมุ่งไปยังที่ที่หนึ่งอันเป็นความลับ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
อีกไกลไหมครับถึงจะถึงวิหารจิน? ออร์พถามกับฮารา
ฮาราหันมามองออร์พแล้วยิ้ม ก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก เดี๋ยวพอไปถึงแล้วเธอก็ต้องเข้ารับการทดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นเยาวจิน แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การฝึกฝน
เยาวจินนี่ก็ประมาณว่าพาดาวันหรือเปล่าครับ?
ก็ถ้าจะว่าคล้าย ๆ กันก็คงได้ แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เหล่าเยาวจินจะไม่ถูกผูกมัดด้วยกฎระเบียบข้อบังคับบ้า ๆ อย่างเรื่องทรงผม เครื่องแต่งกาย หรือความประพฤติ เยาวจินน่ะจะได้ออกมาเที่ยวข้างนอกด้วยนะ ขอแค่อย่าแสดงตัว เท่านั้นพอ ฮาราขยิบตาให้ออร์พ
ออร์พยิ้มรับ งั้นเหรอครับ ดีจังเลยนะ
ดีแน่ ๆ ฮารายิ้มบ้างแล้วมองออกไปนอกกระจก ดีแน่นอน
ครู่หนึ่งหลังจากนั้นฮาราก็สั่งหยุดรถ พริบตาต่อมาแอร์แท็กซี่ก็ลดระดับลงมายังพื้นผิว แล้วประตูก็เปิดออก ออร์พลงมาก่อน ตามด้วยฮารา เข้าไปรอในตึกที่อยู่ทางโน้นก่อน ฮาราบอก แม้ออร์พจะงงนิดหน่อยแต่ก็ยินดีทำตามที่ฮาราบอกโดยไม่โต้แย้ง
พอออร์พลับหลังไป ฮาราก็ชักดาบขึ้นมาในทันที
ขอโทษทีนะที่ข้าไม่มีเงินจะจ่ายให้ ฮาราพูดพลางเปล่งดาบขึ้น เขาตวัดดาบเพียงสองสามครั้งแอร์แท็กซี่คันนั้นก็กลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา เสร็จแล้วเขาก็เก็บดาบไว้ที่เอว แล้วเดินเข้าตึกที่ออร์พเพิ่งเดินเข้าไปเมื่อครู่
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ที่นี่ที่ไหนรึครับ ออร์พพูดด้วยความสงสัย
เป็นทางเข้าวิหารจิน ฮาราพูดแล้วเดินตรงไปที่ผนังเรียบ ๆ ด้านหนึ่ง ตอนนี้เธอคงอยากถามใช่ไหมว่าทำไมวิหารต้องมาอยู่ในที่แบบนี้?
ออร์พพยักหน้า แล้วฮาราจึงพูดต่อพลางทำท่าเหมือนคลำหาอะไรสักอย่างบนผนังนั้น เราไม่ต้องการเปิดเผยตัว ถ้าเราเปิดเผยตัวเป็นที่เด่นชัด ผู้สนใจจะมีมากเกินไปแล้วจะเสียเวลาคัดเลือกหาผู้มีคุณสมบัติจริง ๆ มาก เราเลยใช้วิธีส่งแมวมองไปตามหาดีกว่า เช่นฉันกับเธอเป็นต้น
ออร์พหัวเราะแหะ
เจอแล้ว ฮาราร้อง แล้วทุบตรงที่ที่เขาบอกว่าเจอแล้วอีกครั้ง อึดใจต่อมามีรอยแยกในแนวตั้งผุดขึ้นตรงกึ่งกลางผนังนั้น และกว้างขึ้นเรื่อย ๆ พริบตานั้นออร์พตระหนักได้ว่านั่นคือประตู ประตูนั้นเปิดกว้างขึ้น มีแสงสีแดงลอดออกมาจากประตูนั้น
ยินดีต้อนรับสู่วิหารจิน ออร์พ ฮาราพูดไม่มองหน้า
ออร์พพูดด้วยความตื่นเต้นว่า สุดยอด
ประตูที่เปิดออกตรงหน้าออร์พเผยให้เขาเห็นสิ่งที่แตกต่างจากวิหารเจไดอย่างสิ้นเชิง ที่เขาเห็นอยู่คือโถงทางเดินกว้างขวางสว่างไสวไปด้วยแสงไฟสีแดงส่องตรงลงมาจากเพดานสาดฉายไปทั่วโถง มีคนเดินกันขวักไขว่ ส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กหนุ่มสาว พวกเขาแต่งกายไม่ซ้ำกัน ทำผมไม่ซ้ำกัน บรรยากาศของที่นี่แตกต่างจากวิหารเจไดโดยสิ้นเชิง
เข้ามาก่อนสิ ฮาราพูดแล้วเดินนำ คนสองคนในชุดคล้าย ๆ สตอร์มทรูปเปอร์ ... แต่ไม่ใช่ ค้อมรับฮารา และเมื่อออร์พเดินตามฮาราเข้ามาภายในเรียบร้อยแล้ว สองคนนั้นก็ปิดประตูในทันที ฮาราหันมาทางออร์พแล้วบอกว่า เดินดูโถงไปก่อนนะ แล้วหันกลับมาพูดกับสองคนนั้นว่า เก็บ ๆ ไอ้ที่มันนอกลู่นอกทางให้พ้นหูพ้นตาหน่อยนะ ทั้งสองคนนั้นทำท่าเป็นเชิงรับทราบ แล้วหนึ่งในสองคนนั้นก็เดินออกไป
ฮาราหันมามองดูออร์พที่กำลังคุยกับเยาวจินคนหนึ่งอยู่ แล้วเดินเข้าไปหา เขาตบไหล่ออร์พครั้งหนึ่ง บทสนทนานั้นชะงักลงแต่ออร์พก็ยังมีสีหน้าตื่นเต้น เขาพูดกับฮาราว่า ที่นี่เยี่ยมไปเลยครับ
ฮารายิ้ม เปล่งประกายตาสีเหลืองวูบหนึ่งแล้วพูดว่า เธอจะไม่อยากไปที่ไหนอีกเลยเป็นแน่
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เข้าไปแล้วทำตัวเรียบร้อยตามสมควร ฮาราพูดหันมาทางออร์พ ทั้งสองยืนอยู่หน้าประตูขนาดใหญ่สีดำดูน่าเกรงขาม อยู่ต่อหน้าคิงจินระวังกิริยามารยาทหน่อยนะ
ครับ ออร์พตอบรับ เมื่อกี้ฮาราบอกเขาแล้วว่าคิงจินเป็นเหมือนกับผู้ควบคุมดูแลจินทั้งหมด แต่ถึงตะได้ชื่อว่าเป็นผู้ควบคุม คิงจินก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร เพียงแต่คอยรับคำสั่งจากเบื้องบนอีกทีเท่านั้น
เอ๊ะแล้ว เบื้องบน นี่มันคืออะไรล่ะ? ออร์พเพิ่งจะนึกสงสัยขึ้นมาก็ตอนนี้เอง แต่จะถามออกไปตอนนี้ก็ไม่สมควรเสียแล้ว เพราะประตูเพิ่งจะเปิดออก เผยให้เห็นสภาพห้องประทับของคิงจินที่ออกจะกว้างขวาง บางทีคงใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุมพวกเยาวจินและนักรบด้วยกระมัง
มีเสียงประตูปิด ออร์พหันไปด้านหลัง เห็นอิมพีเรียลการ์ดสองคนในชุดแดงถือหอกเป็นอาวุธยืนคุมประตูอยู่ เท่าที่เขาได้ฟังมาอิมพีเรียลการ์ดพวกนี้จะคอยอารักขาจักรพรรดินี่นา บางทีอาจจะมีคนทดสอบผ่านเป็นอิมพีเรียลการ์ดเยอะ จักรวรรดิเลยส่งมาที่นี่บ้างก็ได้ละมั้ง? แบบนี้หรือว่าจินจะได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิรึไง? มีเจไดแล้วยังไม่พออีกรึ ยิ่งคิดยิ่งงง
งงได้อึดใจหนึ่งออร์พก็ขี้เกียจคิดอะไรให้ปวดสมอง จึงหันหน้ากลับมามองทางข้างหน้าที่ฮารานำเขาเดินไปอยู่ดีกว่า แต่พอเขาหันกลับมาปุ๊บฮาราก็บีบแขนเขาเป็นเชิงให้หยุดทำเอาชะงักแทบสะดุดขาหกล้มไปฟาดบันไดที่อยู่ตรงหน้า ออร์พมองตามบันไดนั้นขึ้นไป มันทอดสูงขึ้นไปถึงประมาณเกือบสามช่วงตัว และที่อยู่บนสุดนั้น คนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้... หรือว่าบัลลังก์?
ระหว่างที่ออร์พกำลังพยายามเพ่งมองคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้น เขารู้สึกถึงแรงกระตุกที่แขน เมื่อมองตามไปก็เห็นฮารากำลังนั่งก้มหน้าชันเข่าพร้อมกับกระตุกแขนของเขาเชิงว่าให้นั่งลงด้วย ออร์พทำตามในทันที
ลุกขึ้นเถิด สหาย ทั้งสหายเก่า และสหายใหม่
ต้องเป็นเสียงของคนที่อยู่บนบัลลังก์นั้นแน่ ๆ เสียงนั้นฟังดูมีอำนาจ น่าเกรงขาม น่าหวั่นเกรง หรือถ้าจะว่าไปแล้ว ก็น่ากลัวอยู่เป็นที่ยิ่ง ออร์พไม่ขัดขืนเสียงนั้นแม้แต่น้อย เขาลุกขึ้นยืน แล้วมองไปข้างหน้า คนคนนั้นมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว! ในระยะประชิด ออร์พได้ยินเสียงลมหายใจลอดออกมาจากใบหน้าที่ซ่อนไว้ใต้ฮูดดำนั้น
เขามองมาที่ออร์พแล้วพูด ขอข้าทราบนามเจ้า
แอรัล ออร์พตอบ ออร์พ ดี แอรัล
แอรัล แอรัล เสียงดังมาจากใต้ฮูดดำนั้นอีก แสงสวางที่ลอดมาจากหน้าต่างรูปกลมที่มุมเพดานของห้องทำให้ออร์พพอจะมองเห็นปากได้บ้างภายใต้ความมืดนั้น ยินดีมากที่เจ้ามาหาเรา นี่ข้าแนะนำตัวหรือยัง?
ยังขอรับ นายท่าน ฮาราตอบ เขาค้อมศีรษะลงเล็กน้อย
อ้อ งั้นหรือ เจ้าของฮูดดำเอ่ยอีก ชื่อของข้านั้น ข้าไม่ใช้มานานมากแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญ ทุกคนในที่นี้เรียกข้าว่าคิงจิน เบื้องบนเรียกข้าว่าโคลเนม ส่วนเจ้าจะเรียกข้าเช่นไรนั้นก็สุดแท้แต่เจ้าจะเรียกเถิด
ถ้าเช่นนั้นข้าขอเรียกท่านว่าราชา ออร์พก้มหน้า จะได้หรือไม่ขอรับ?
ข้าไม่เห็นว่าจะมีปัญหาตรงไหน? คิงจินเงยหน้าขึ้นทำให้ออร์พมองเห็นใบหน้านั้นได้ชัดเจนขึ้นเล็กน้อย แม้จะไม่ชัดเจนมากนักแต่ออร์พรู้สึกได้ชัดเจนแน่แล้วว่าคิงจินเป็นชายแก่คนหนึ่ง เชิญข้างนอกก่อน ประโยคนั้นเขาพูดกับฮารา
ครับ นายท่าน ฮาราค้อมรับ (ออร์พเห็นตาสีเหลืองส่องประกาย) ถอยหลังไปจนถึงประตู แล้วจึงกลับหลังหันเดินออกไป
เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า แอรัล คิงจินหันมาพูดกับออร์พ ซอร์โรว์บอกข้าแล้ว ตอนนี้เจ้าเป็นเจไดสินะ?
ซอร์โรว์ ... คงจะเป็นอีกชื่อหนึ่งของฮาราเป็นแน่แท้ หามิได้ขอรับ ราชา ข้าเป็นเพียงพาดาวันที่ไม่ยอมรับระบบของเจไดเท่านั้น
ไม่ยอมรับระบบงั้นรึ?
ครับราชา ข้ามิอาจบรรยายความรู้สึกที่ข้ามีต่อเหล่าเจไดได้ แต่ที่ข้ารู้แน่ก็คือ ข้าเกลียดเจได และไม่อยากเป็นเจไดแน่นอนขอรับ
เจ้าเลยมาที่นี่?
ข้าไม่มีที่ไปครับ
คิงจินยิ้มให้ออร์พเห็น เรายอมรับทุกคนอยู่แล้ว ละทิ้งโลกเบื้องหลังให้หมด แล้วหันหน้าสู่ศรัทธาแห่งจิน ที่นี่เจ้าจะได้สิ่งที่ต้องการ ตอบแทนให้กับเจ้าอย่างเต็มที่
เป็นพระคุณอย่างสูงขอรับ ออร์พค้อมรับอย่างยินดียิ่ง
เจ้าพกอาวุธเจไดมาด้วยหรือเปล่า?
พกมาครับ
คิงจินยกมือขึ้น ออร์พรู้สึกได้ว่าดาบแสงของเขาถูกกระตุกดึงออก มันไปลอยอยู่เบื้องหน้าคิงจิน ละทิ้งเสีย คิงจินพูด พลันก็มีดาบแสงด้ามหนึ่งลอยมาอยู่ในมือของออร์พ ใช้ดาบเล่มนั้นกำจัดความเป็นเจไดออกไปเสียเถิด
ออร์พยกดาบในมือขึ้น เขาเปล่งดาบนั้นออกมา มองเห็นเป็นลำแสงสีแดงสว่างวาบ รู้สึกเหมือนดาบนี้จะสามารถทำลายความเป็นเจไดให้สูญสิ้นไปจากตัวของเขาเองได้ ออร์พตวัดดาบครั้งหนึ่งหมายฟันดาบแสงที่มาสเตอร์ไลโอลงมือทำให้เขาด้วยความรักขาดเป็นสองท่อน
พลันมีเสียงแชะดังขึ้นพร้อมกับลำแสงสีเขียวสว่างวาบ ลำแสงนั้นต้านดาบเล่มที่เขาได้รับจากคิงจินเอาไว้ ราวกับมีคนใช้มันต่อสู้อยู่ แต่ที่จริงหามีไม่
จงอย่าหยุด แอรัล ออร์พได้ยินเสียงคิงจินแว่วมา อดีตกำลังต่อสู้กับเจ้า ไม่ใช่เพียงดาบที่อยู่ตรงหน้านี่หรอก แต่ในใจของเจ้าก็เช่นกัน ใจเจ้ายังคงคิดคำนึงถึงพิภพที่ห่างไกลนั้นอยู่จริงหรือไม่? ใจเจ้ายังคงหลงเหลือความปรารถนาที่จะกลับไปที่อยู่อีกมิใช่หรือ? การละทิ้งสิ่งนั้นยากยิ่งกว่าสิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่ตรงหน้านี้นัก
ดาบของมาสเตอร์ไลโอหมุนวนรอบหนึ่งราวกับจะฟันออร์พทางด้านข้าง เขาหันดาบรับ แต่มันกลับฟันเขาเข้ามาอีก ตอนนี้เขาจึงต้องคอยต้านดาบนั้นเอาไว้มิให้ฟาดฟันเขาออกเป็นสองท่อน
จงทำลายสิ่งที่ต่อต้านเจ้าอยู่ให้สิ้นซาก แอรัล เสียงของคิงจินแว่วมาอีกครั้ง
มันยากเหลือเกินครับราชา! ออร์พร้องตอบเสียงแว่วของคิงจินในขณะที่พยายามต่อต้านดาบกลางอากาศที่กำลังพยายามจะฆ่าเขา มันต่างกับการสู้กับคนลิบลับเลยครับ ดาบนี้ไม่ถูกยึดติดด้วยร่างกายเลย มันเข้าโจมตีผมได้ทุกทิศทุกทาง หากทิ้งให้ยืดเยื้อผมต้องถูกดาบเล่มนี้ฆ่าตายแน่เลยครับ!
นั่นแสดงถึงความอ่อนแอของเจ้า! คิงจินคำรามด้วยเสียงกึกก้อง หากไม่สามารถรับมือกับดาบเล่มนี้ได้ เจ้าจะมีปัญญาอะไรไปรับมือกับอดีตของเจ้างั้นรึ? ดาบเล่มนี้ต่อกรกับเจ้าทุกทิศทุกทาง หากก็แต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่อดีตของเจ้าจะกัดกินตัวเจ้าจากภายใน เจ้าจะรับมือกับมันได้อย่างนั้นรึ? หากเจ้าไม่สามารถรับมือกับอดีตได้ สักวันหนึ่ง อดีตก็จะชักนำเจ้าให้ไขว้เขวออกจากแนวทางที่เจ้าปรารถนาในบัดนี้ เจ้าต้องทำให้ได้ แอรัล หากเจ้าไม่สามารถทำลายดาบเล่มนี้ลงได้ ก็เท่ากับว่าเจ้าไม่สามารถทำลายอดีตของเจ้าได้
คิงจินยกมือขึ้น พลันเกิดเสียงวูบ พร้อมกับแสงสีเขียวที่ดับลงไป อึดใจหลังจากนั้นแสงสีแดงก็ดับลง พร้อมกับเสียงของร่างกายของออร์พที่ล้มเผละกับพื้น
ข้ารู้ดีว่าเจ้ารู้สึกเช่นไร แอรัลเอ๋ย การละทิ้งอดีตนั้นยากเย็นนักเสียยิ่งกว่าการทำลายดาบเล่มนี้ แต่ข้าก็จำเป็นต้องให้เจ้าทำ ข้าเคยพบกับคนที่มาหาข้า ภักดีกับข้า แต่สุดท้ายเขากลับละทิ้งเจตนารมณ์ดั้งเดิมของเขา เขาทรยศข้า และทิ้งข้าไป เจ้ารู้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร? เพราะเขาไม่สามารถละทิ้งอดีตได้ เมื่ออดีตมาหาเขา อดีตก็ชักชวนให้เขาทิ้งข้าไป เขาทรยศข้า และทำลายข้า ข้าไม่ต้องการให้เรื่องอุบาทว์เยี่ยงนั้นเกิดขึ้นอีก ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่แอรัลเอ๋ย เจ้ายังเด็กนัก บัดนี้ข้าขอให้เจ้าได้พักผ่อนเสียก่อนดีกว่า หากคราหน้าคราใดเจ้าพร้อมรับการทดสอบนี้ ขอให้บอกข้า เมื่อใดที่เจ้าทำลายอดีตของเจ้าได้ เจ้าก็จะเป็นนักรบที่เกรียงไกรเหนือนักรบใด ๆ ในจักรวาล
[align=center]= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =[/align]