[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Notice: in file [ROOT]/includes/session.php on line 2213: Array to string conversion
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/feed.php on line 173: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
[phpBB Debug] PHP Warning: in file [ROOT]/feed.php on line 174: Cannot modify header information - headers already sent by (output started at [ROOT]/includes/functions.php:3823)
JRISS! จริ๊ดจัดๆ เราถนัดเรื่องชงโอเลี้ยงงง XDD 2004-04-27T02:17:32+07:00 http://jriss.net/board/feed.php?f=22&t=424 2004-04-27T02:17:32+07:00 2004-04-27T02:17:32+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2564#p2564 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]> Statistics: Posted by Guest — Tue 27 Apr 2004 02:17


]]>
2004-04-17T23:59:17+07:00 2004-04-17T23:59:17+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2478#p2478 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>
ผู้หญิงไม่ได้หลงตัวเองไปหมดหรอกนะคะว่าชายหนุ่มที่เข้ามาน่ะมาชอบ และอีกอย่างสาวๆก็คงจะไม่ได้รีบร้อนมองหาสามีนักหรอกค่ะ เพราะถ้ารีบร้อนมองหาจริงๆก็สงสัยจะไม่ได้อยู่จนป่านนี้ เอิ๊กๆๆ แต่งงานไปตั้งแต่มีคนขอแต่งงานรอบแรกไปโน่นแล้ว เหอ...เหอ เลยต้องขอค้านสองเรื่องนี้เสียหน่อย เอิ๊กๆๆๆ

ไม่รู้ว่าท่านๆได้ตอบด้วยอารมณ์แบบไหนค่ะ แต่ในส่วนตัวที่ต้องบอกว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เลือด Y สิงสู่เต็มขั้นไปแล้วแต่มีอันต้อง connect กับหน่มๆอยู่เนืองๆ ขออนุญาตบอกว่าการชื่นชมอยากสนิทสนมเพราะว่าชอบนิสัยหรือการที่แถมาทำท่าอะไรอย่างอื่นมีซ่อนเร้นนั่น สาวๆแยกได้พอสมควรค่ะ

ตัวอย่างเช่น นางสาวA สนิทกับนาย B แล้วชวนกันไปดูหนังตามประสาคนคอเดียวกัน หากว่านาย B กับนางสาว A นั่งดูหนังด้วยกันเฉยๆ มีการคุยกันหยอกล้อกันเล่นบ้างตามสมควรอันนั้นก็คงไม่มีอะไร นางสาว A เธอก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรที่นาย B ชวนเธอไปดูหนังแต่นางสาว A จะคิดมากก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์เช่นว่า นาย B เอื้อมมือมาแอบจับมือนางสาว A ตอนที่ดูหนังมืดๆ ฮ่าๆๆๆๆ เอ่อ...อันนี้ตัวอย่างนะคะ อย่าคิดว่าเรื่องจริง คือจะบอกว่าถ้าไม่มีไฟก็ไม่มีควันเจ้าค่ะ

เพราะงั้นเราว่าสาวๆแยกได้พอควรแหละ ยกเว้นว่าสาวนั้นมันจะหน้ามืดหลงตัวเองเช็ดเม็ดหมดทุกกรณีอันนั้นก็ถือว่าแก้ไม่ได้ก็แล้วกัน ฮ่าๆๆ แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าสาวๆต้องมี clue อะไรเล็กน้อยแหละไม่งั้นไม่คิด

แต่หนุ่มๆ ถ้าบังเอิญว่า..เกิดอะไรขึ้นแล้วพูดทีหลังว่าเฮ้ยย ผมไม่ได้คิดหนา.... เธอคิดไปเอง แล้วเช่นนี้สาวๆจะโวยอันใดได้ล่ะคะ เพราะไอ้อะไรที่ทำให้คิดนั่นก็มักจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรป่าวประกาศเสียด้วย ฮ่าๆๆๆ ทำไงดีล่ะเนี่ย....

โอเคเจ้าค่ะ ไม่มีอะไร แค่อยากเสนอว่าจริงๆสาวๆก็ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองหมดหรอกเท่านั้น

ตานี้เรื่องของหนุ่มที่มีใครแล้วแอบไปเหล่สาวอื่น สงสัยมันจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้วเพราะสาวๆสมัยนี้หลายคนก็ทำเช่นนั้น เอาค่ะ ... ถือซะว่าเธอทำได้ฉันก็ทำได้ แต่เราพึ่งจะได้ยินจากปากของชายหนุ่มเพื่อนเราคนหนึ่ว่าธรรมดาครับ ที่จะเป็นแบบนั้นถ้าเกิดว่าเราอินๆอยู่กับใครสักคนแต่กบังเอิญว่าจะไปอินกับคนอื่นอีกได้เหมือนกันเพราะว่า..มันเป็นเรื่องของความรู้สึก

โอย... ยิ่งฟังยิงมึนงง.. โลกเป็นอะไรไป หรือ thinking process ของเรามันตกยุคไปแล้ว

ลาไปมึนก่อน..

Statistics: Posted by liamm — Sat 17 Apr 2004 23:59


]]>
2004-04-04T02:24:47+07:00 2004-04-04T02:24:47+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2448#p2448 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่อให้เกิดเป็นผู้ชาย D.M. ว่ามันก็เหมาไม่ได้หรอกนะ ว่า "เลว" ไปหมด ก็เหมือนกับว่าเหมาไม่ได้เหมือนกันว่าผู้หญิงจะหลงตัวเองละคิดแต่ว่าผู้ชายเข้ามาใกล้เพราะจะจีบไปซะทุกคน อย่างน้อยพวกเรา ๆ ก็ไม่ได้มองผู้ชายอย่างนั้นละกัน (แอบเห็นด้วยกับสองย่อหน้าแรกของท่านอานสุด ๆ เอิ๊กกกก) :lol:

ถ้าจะเอาให้มันวิชาการจริง ๆ เดี๋ยวเราก็ต้องมาหา definition ของคำว่า "เลว" "ดี" กันอีกนั่นแหละค่ะ แล้วก็ต้องกำหนดขอบข่ายของการศึกษา สุ่มตัวอย่าง ทำแบบสอบถาม แล้วก็เอามาประเมินค่า........

เอิ๊ก ไปดีก่า thesis ขึ้นสมอง

Statistics: Posted by D.M. — Sun 04 Apr 2004 02:24


]]>
2004-04-03T01:35:36+07:00 2004-04-03T01:35:36+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2443#p2443 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]> นังนั้น มันจะต้องเป็นชู้แน่ๆ เลย ชั้นยอมไม่ด้ายยย
เอาเถอะ บางกรณีก็ใช่แหละ แต่อีกหลายกรณี คิดมากเกินไปป่าว ใจคอจะให้เค้ามีชีวิตอยู่คนเดียวเลยรึไง
มันควรจะดูเหตุการณ์อย่างอื่นประกอบด้วย ว่า นังนั่น มันชู้หรือเปล่า เช่น... (เอาไว้ค่อยถามมาใหม่แล้วกัน)
อันนี้เป็นคำตอบที่ว่า มีแฟนอยู่แล้วมายุ่งกับคนอื่นทำไม

ต่อในประเด็นที่สองครับ ผู้ชายดีๆหายไปไหน
อย่าผิดหวัง ถ้าจะบอกว่า ผู้ชายดีๆ ไม่เคยมีในโลกครับ
ถ้าหมายถึงผู้ชายที่ทำและคิดอย่างที่ถูกใจผู้หญิง
เพราะระบบความคิด และการทำงานของสมองผู้ชาย ผู้หญิงไม่เหมือนกัน และแก้ไขไม่ได้
อันที่จริงผู้ชายดีๆ อาจจะพอหาได้ครับคือ ผู้ชายที่มีความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัว บางคนอาจจะเบี่ยงเบนทางเพศ
บางคนเกิดผิดเพศ หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าธรรมดา
หรือบางคนก็พยายามทำตัวให้เข้าใจผู้หญิง บางคนก็ทำตัวให้เข้าใจเพื่อตั้งใจหลอกผู้หญิงโดยเฉพาะ ส่วนน้อยมาก
ที่พยายามเพื่อผู้หญิงที่ตัวเองรัก
ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ผู้ชายคิดแบบผู้หญิงไม่ได้ (แต่อาจทำอย่างที่ผู้หญิงต้องการได้) คนที่คิดได้คือ เกย์ หรือ
เสือผู้หญิง ส่วนกรณีคนที่ตั้งใจทำเพื่อคนที่รักนั้น คงไม่กระเด็นออกมาแถวๆ นี้ให้ใครเจอหรอก

สรุป ผู้ชายดีๆ ไม่ได้หายไปไหน แต่ผู้ชายดีๆ ไม่มีในโลกครับ

Statistics: Posted by Guest — Sat 03 Apr 2004 01:35


]]>
2004-04-03T01:03:46+07:00 2004-04-03T01:03:46+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2442#p2442 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]> เลยคิดว่าน่าจะะพออธิบายให้เข้าใจกันได้บ้าง

เอาประเด็นแรกก่อน เรื่องของทำตัวไม่ชัดเจน
อันนี้ขอบอกว่าบางทีที่ผมคบ พูดคุยกับสาวๆ นี่ผมไม่ได้หวังว่าจะไปจีบนะ ผมก็คบเป็นเพื่อน
แค่หาคนกินข้าว ไปเที่ยวบ้าง ดูหนังบ้าง เช่นเดียวกับเพื่อนๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ผมรู้จักคนอื่นๆ
แต่... แฟน (อันนี้ในกรณีของคนที่มี) และคนที่ผมไปคบด้วย ไม่ยักกะเข้าใจแฮะ

ในฐานะผู้ชาย ผมไม่เข้าใจว่าในสมองผู้หญิงทำงานยังไง ถึงได้มองว่าเวลาผู้ชายเข้ามาคุยกับผู้หญิง
จะต้องเข้ามาจีบทุกคน (มั่นใจตัวเองมากไปป่าว)
ในกรณีของผมเอง ผมก็ไปดูหนังกับ น.ส. D (นามสมมุติ) และน.ส. S (นามสมมุติ) ตั้งหลายครั้ง
โดยที่ไม่มีจุดมุ่งหมายแบบอื่น นอกจาก ชอบดูหนังประเภทนั้นเหมือนกัน ไม่เห็นต้องคิดมากเลย
แล้วถ้ามีแฟนแล้ว ห้ามมายุ่ง มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าแบบนั้น ชาตินี้ถ้ามีแฟนแล้ว
คงต้องเลิกติดต่อกับผู้หญิงทุกคน เพราะผู้ชายใช้มาตรฐานเดียวกันกับเพื่อนผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าคนไหน

แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนเป็นคนพิเศษ รับรองได้ว่าไม่ออกมา Gray แน่นอน มันจะชัดเจนจนรู้ได้เอง
(อันนี้ไม่เกี่ยวกับมีแฟนแล้วหรือไม่ เรื่องนั้นไว้คุยต่อไป) ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็แปลว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หรือแปลว่ากำลังดูๆ และประเมินความเป็นไปได้อยู่ ไม่ได้แปลว่าจีบแน่นอน

Statistics: Posted by Guest — Sat 03 Apr 2004 01:03


]]>
2004-04-02T14:13:55+07:00 2004-04-02T14:13:55+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2440#p2440 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>
ไม่รู้อ่ะค่ะ ประเด็นคือสกบร.ไม่ได้โปรทั้งสองเพศ จะว่าเกลียดก็ไม่ใช่ แต่ก็ใช่ว่าจะชอบไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย กล่าวคือเซ็งมันทั้งคู่นั่นแหละ (รู้สึกว่าเราจะเกิดมาเพื่อเบื่อโลกยังไงไม่รู้แฮะ ^^")

บางทีอาจจะต้องบอกว่า เรื่องแปลกๆประเภทนี้มันเป็น "สันดอนที่ขุดไม่ได้" ของหญิงกับชายเวลาเกิดสารเคมีต่อกันค่ะ หุหุหุ

Statistics: Posted by scarborough — Fri 02 Apr 2004 14:13


]]>
2004-04-01T15:16:01+07:00 2004-04-01T15:16:01+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2439#p2439 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>
เรื่องแบบนี้สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องระวังตัวเองแล้วล่ะคะ เพราะสังคมปัจจุบันนี้ จะหาผู้ชายดีๆ มีน้ำใจเล่นกันแฟร์ๆมันยากซะเหลือเกิน ความที่ประชากรเพศหญิงมันเหลือล้น แถมประชากรเพศชายก็มีบางส่วนที่แปรพรรค แปรพวกไปเป็นเพศที่สามกันซะ พวกที่เป็นสิบแปดมงกุฏในคราบผู้ชายคอยปอกลอกสาวๆมันเลยออกมาวิ่งเล่นเพ่นพ่านให้เห็นกันได้เยอะแยะเต็มไปหมด แล้วตามวิสัยปกติของเราแล้ว เรื่องดีๆเนี่ยมันน่าสนใจน้อยกว่า สู้เรื่องผัวๆเมียๆให้นินทากัน มันสนุกปากซะมากกว่า ฉะนั้นบางทีเราเลยมองว่าเรื่องเลวร้ายในสังคมมันเยอะเหลือเกิน

ไม่ได้ว่าผู้ชายไม่ดีหมดโลกนะคะ คือที่ดีๆน่ะ มันก็มี แต่เป็นพวกที่ค่อนข้างจะถูกมองข้ามซะเยอะน่ะสิ

ส่วนผู้หญิง ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี หรือดีเลิศหรูไปซะหมดหรอกนะ สมัยนี้ผู้หญิงบางคนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วก็ยังไปมีกิ๊กเยอะแยะ หรือแม้แต่เป็นชู้ชาวบ้านเค้าที่มีเมียมีลูกอยู่แล้วก็เป็นไปได้ สังคมทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนตรงที่เรารับเอาวัฒนธรรมฝรั่งเข้ามาเยอะ ทั้งที่มันไม่ค่อยจะเข้ากับวัฒนธรรมเก่าแก่ดีๆของเราซะเท่าไหร่ แต่ในเมื่อรับเข้ามาแล้ว เราก็ได้แต่ปรับๆตัวกันไปแหละนะ คงจะต้องทำใจยอมรับกันบ้าง คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงทั้งหลายก็จงอย่าถือตัวและดำเนินในทางที่ไม่ประมาท ตามที่พระพุทธเจ้าตรัส คนรอบข้างก็ฟังหูไว้หู อัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับตัวเอง ก็คิดไตร่ตรองสิ่งรอบข้างซะให้ดีก่อนจะทำอะไร คงจะดีกว่าอ่ะค่ะ

Statistics: Posted by Fly_Away — Thu 01 Apr 2004 15:16


]]>
2004-04-01T05:25:47+07:00 2004-04-01T05:25:47+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2438#p2438 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>
เนื่องจากไม่เคยมองผู้ชายด้วยสายตาที่เอาไว้มองเพศตรงข้าม และไม่เคยมองผู้หญิงด้วยสายตาของเพศเดียวกัน อันพึงเข้าอกเข้าจึย ดังนั้น บางครั้งเมื่อมีอันต้องสนิทสนมกับเพื่อนผู้หญิงมากกว่าปกติชั่วคราว (อาทิเช่นตอนสอบแล้วไปอยู่หอ) แล้วได้ฟังเพื่อนผู้หญิงคุยกันเรื่องกิ๊กบ้าง แฟนบ้าง ก็เลยบังเกิดบางความรู้สึกขึ้นมา

บางครั้ง ผู้หญิงเรานี่เร่งร้อนจะมองผู้ชายด้วยสายตาอย่างที่จะมองสามีในอนาคตมากไปรึเปล่า?

คนเรา บางครั้งมันก็บังเกิดความชื่นชมใครต่อใครได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเพศ (เช่นอิชั้นชื่นชมน้องอัลฮัททาลเป็นต้น) เมื่อชื่นชมแล้ว ก็พึงอยากจะแสดงให้เขารู้ว่าเราชื่นชม อยากจะรู้จักให้มากขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจแท้ ๆ แต่มีผู้หญิงจำนวนไม่ใช่น้อยที่มองว่าผู้ชายที่เข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมด้วยจะต้องอยากจีบเป็นแฟนไปเสียหมด จนบางทีก็ตีความเอาเองข้างเดียว

เคยเห็นเพื่อนทำท่าเฮิร์ท ๆ บ่อย ๆ เพราะสาเหตุนี้ ไอ้เราก็เข้าใจว่าแฟนมันหลายใจถูกทิ้งหรืออะไร แต่พอปวารณาตัวเป็นศิราณีเป็นเรื่องเป็นราว กลับพบว่าปัญหาที่แท้จริงมันเนื่องมาจากเพื่อนเราคิดเองเออเองเสียนี่ น่าเจกกระโหลกนัก

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ชายที่คบหญิงเผื่อเลือกจริง ๆ ทำตัวคลุมเครือไม่ต้องรับผิดชอบอะไรจะไม่มี มันก็มี และก็ใช่ว่าผู้หญิงที่ทำเหมือนกันจะไม่มี สรุปแล้วมันก็มีคนประเภทนี้อยู่ทั้งสองเพศนั่นแหละ ขึ้นกับดวงว่าเราจะไปจ๊ะเข้าหรือเปล่ามากกว่า

ปัญหาทำนองนี้ มันคงจะอยู่ที่ตัวผู้หญิงแหละมั้ง...อย่างว่า ถ้าหญิงทำท่าว่าโอนอ่อน ยอมตามใจเขาไปเสียหมด เขาดูก็รู้แล้วว่ามีใจ ไม่มีอะไรต้องต่อสู้ดิ้นรนแล้วนี่หว่า...คบไว้ก่อนเผื่อวันไหนเกทของใหม่ยังไม่ได้ จะได้กลับมาใช้บริการ เขาไม่มีอะไรจะเสีย ในเมื่อจากไปนานแค่ไหนกลับมาก็ยังอ้าแขนรับ (อารมณ์เมียหลวงแสนดีในนิยายสิบสตางค์ยุค วณ ประมวลมารค!)

ก็...ถ้าหนุ่มดูท่าว่ามีใจเข้าให้แล้ว ก็คุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่ามั้ง? ถกเขมรนนั่งยอง ๆ ประจัญหน้าไปเลยว่า ตกลง เอ็งจีบข้าใช่มั้ยเนี่ย? (กินหมากปากเปรอะไปด้วยจะได้อารมณ์ยิ่งนัก) ในกรณีที่เขามีหญิงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทราบเมื่อไรก็ตาม ข้าพเจ้าว่าพึงสะบัดหน้าถอยออกมาจะดีที่สุด (เบะปากอย่างรังเกียจด้วยเพื่อเพิ่มความได้ใจ) เราลูกมีพ่อมีแม่นะ เรื่องอะไรจะต้องไปอยู่ในฐานะตัวเลือกของใคร การงอนง้อรอให้เขาตัดสินใจเลือก ลดค่าของตัวเองอย่างฉกาจฉกรรจ์

เอ่อ ยังไงก็ฟังหูไว้หู อย่าเห็นดีเห็นงามตามคนที่แก่จนป่านนี้ยังไม่มีใครคิดจะจีบอย่างหนูเรย ฮ่าๆๆ

Statistics: Posted by Jacknife — Thu 01 Apr 2004 05:25


]]>
2004-03-31T15:15:53+07:00 2004-03-31T15:15:53+07:00 http://jriss.net/board/viewtopic.php?t=424&p=2436#p2436 <![CDATA[อภิมหาอมตะซุปเปอร์OT ของวันนี้ว่าด้วยเรื่องหนุ่มๆรอบข้างเรา]]>
เมื่อก่อนจะชอบบ่นกับน้องๆที่คุยกันบ่อยๆว่า ผู้ชายดีๆในโลกนี้มันหายไปไหนหมดเหรอ ก็ต้องบอกว่าไอ้ที่ว่าดีในที่นี้แปลได้ว่าผู้ชายที่เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าชอบที่นิสัยหรือการกระทำ ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่โกงใครอะไรแบบนั้น คือพูดง่ายๆ ดีในที่นี้แปลว่าน่าชอบน่ะแหละค่ะ ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคนดีของสังคมตามความหมาย

นั่นซิ..ผู้ชายดีๆหายไปไหน มันเป็นค่านิยมไปแล้วหรือไร ใครช่วยตอบ

เพราะเมื่อก่อนเวลาเจอเรื่องราวประมาณว่า ชายหนุ่มไม่ชัดเจนทำคลุมเครือมาจีบสาวๆและก็ยังทำคลุมเครืออยู่แบบนั้นตลอดเวลาไม่ว่าคบกันมานานเท่าไร เราก็จะปลงๆแล้วก็ส่ายหน้าและพูดประโยคเดิม (ผู้ชายดีๆหายไปไหนหมดโลกนี้นะ) โดยพื้นฐานต้องบอกว่าเราไม่ชอบอารมณ์ gray แบบนี้ ทีแรกก็นึกว่าเราผู้เดียวที่เห็นบ่อยๆก็จะพยายามคิดว่าเออ ฉันคงโชคร้าย แต่ว่าคนรอบตัวหลายคนก็จะเจอเรื่องราวไม่แตกต่างเช่นมีหนุ่มมาจีบ จีบกันอยู่ดีๆมีสาวโทรมาบอกว่า ฉันนี่แหละแฟนเขา คุณเป็นใคร

พระเจ้า.. มีแฟนแล้วมายุ่งกะคนอื่นทำด๋อยอะไรเหรอ…

ยังค่ะ ยังไม่พอ… มีเรื่องเช่นว่า…. อยู่ใกล้กัน เป็นแฟนกันเถอะ พอต้องย้ายไปทำงานต่างเมืองบอกว่าเฮ้ย..เราเลิกกันนะ พอกลับมาทำงานที่เมืองเดิมใหม่ ก็เรามาคบกันใหม่ อ้าว…ไม่ใช่เซเว่นอีเลเวนนะคะ นึกจะเดินเข้าก็เข้ามา นึกจะออกก็ออกไป เข้าเซเว่นยังควรซื้อของเลยแหม…

และวันนี้ รายล่าสุดที่พึ่งได้ยินมากะหูและได้ดูมากะตา เจอไอ้หนุ่มมาจีบสาวเข้า จีบอยู่นานทำดีได้ซะทุกอย่าง กินข้าวเย็นด้วยเกือบทุกวัน วันหยุดก็มาแฮงค์อยู่ด้วยแถมสาวเจ้าก็ออกจะใจดีช่วยเหลือไอ้หนุ่มเวลาเดือดร้อนเงินทอง ปรากฏว่ามีอยู่วันนี้โทรหาหนุ่มไม่เจอ พอโทรไปโทรมาเจอสาวโทรกลับมา บอกว่าชั้นอยู่กะเขามาห้าปี คุณเป็นใคร….

ซวยล่ะซิ…

ใครอาจจะคิดว่าเฮ้ย นี่มันส่วนน้อยหรือเปล่า แต่ก็ขอบอกตามตรงว่าแล้วทำไมผู้ชายรอบข้างรอบเอวดิฉันถึงมาทำนองนี้หมดละเฟร้ยคะ… ไม่ได้ว่าเป็นคนไม่ดี แต่เราไม่ชอบเข้าใจไหม เช่นเรื่อง gray สถานภาพไม่ชัดเจน มีแฟนแล้วมาจีบเรา หรืออะไรแบบนั้น แต่ไอ้กรณีสุดท้ายที่เล่านี่ต้องยอมรับว่าเลว หลอกเอาตังค์ชัดๆ ตัวอย่างผู้ชายรอบข้างที่จริงๆเป็นคนดีแต่ก็แอบไม่ชอบนิสัยเรื่องนี้ก็เช่นคนรู้จักคนหนึ่งแต่งงานกะแฟนเมื่อสามปีที่แล้ว ขณะนี้เปิดร้านเสื้อผ้ากับกิ๊ก (ซึ่งอยากจะเรียกว่าชู้) อยู่หนึ่งร้านและก็ยัง still เป็นกิ๊กกันอยู่ เฮ้ย โลกเราเป็นอะไรไป เรื่องอื่นก็เช่นเรื่องของเมียขี้หึงกับสามีเจ้าชู้ซึ่งสามีบอกว่าเมียหึงเกินฉันเลยต้องเจ้าชู้ ส่วนเมียก็บอกว่าก็มันเป็นซะขนาดนี้จะไม่ให้หึงไงล่ะ สรุปต่างคนต่างโยนไม่รู้ว่าเริ่มที่ใคร

สรุปๆๆ อยากจะถามว่า.. ผู้ชายเขาคิดอะไรกันเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ฟระคะ ค่านิยม หรือว่า… เราซวยเอง แต่จะว่าเราซวยเองที่เห็นแบบนี้บ่อยๆก็ทำไมคนใกล้ตัวเราถึงได้เห็นแบบนี้กันซะส่วนใหญ่หว่า นั่นดิคะ ผู้ชายทำไมเป็นงี้ล่ะ ไหนช่วยตอบทีเถอะ มันคาใจชะมัดเลย

ปล.หนุ่มๆที่แอบมาอ่านจะตอบก็ไม่ว่านะคะ อยากฟังความเห็นฮ่าๆๆๆๆ ไม่ต้องตอบว่ามันขึ้นกะคนนะ เพราะทำไมมันขึ้นแล้วไม่ลงแบบนี้ล่ะ เอิ๊กๆๆๆๆ

Statistics: Posted by liamm — Wed 31 Mar 2004 15:15


]]>